การทำความสะอาดช่องปากและฟัน เป็นกิจวัตรประจำวันที่ทุกคนต้องทำหลังตื่นนอนตอนเช้าเสมอ ในเวลาที่เร่งรีบ คุณจะรู้ได้อย่างไรว่าเราแปรงฟันสะอาดอย่างถูกวิธีแล้วจริงๆ อาจจะแปรงแบบผ่านๆ เพื่อขอไปที ก็ดีกว่าไม่ได้แปรงเลย หรือบางคนอาจจะเสียเวลากับการแปรงฟันนานเกินไป
จนไปเบียดบังเวลาที่จะทำกิจวัตรส่วนตัวอื่นๆ ในช่วงเช้าได้ จะดีกว่าไหม หากเราหาตัวช่วยที่จะทำให้การแปรงฟันของคุณง่ายขึ้นและไม่น่าเบื่ออีกต่อไป ทั้งยังสะอาดกว่าการแปรงฟันด้วยแปรงสีฟันธรรมดาอีกด้วย ตัวช่วยนั้นก็คือแปรงสีฟันไฟฟ้านั่นเอง ซึ่งเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่จะเปลี่ยนประสบการณ์การแปรงฟันของคุณตลอดไป หากคุณเริ่มสนใจแปรงสีฟันไฟฟ้าแล้วล่ะก็ เราไปดูกันเลยดีกว่าว่าก่อนจะซื้อแปรงสีฟันไฟฟ้าสักเครื่องนั้น ต้องเลือกจากอะไรบ้าง
วิธีเลือกแปรงสีฟันไฟฟ้า ดูจากอะไรได้บ้าง
https://pixabay.com/photos/teeth-brushing-teeth-dentist-4818757/
การจะเลือกแปรงสีฟันไฟฟ้าสักอัก ต้องเลือกให้เหมาะกับช่องปากและฟัน รวมทั้งวิธีการใช้งานของเรา โดยแต่ละแบบจะมีฟังก์ชั่นแตกต่างหลากหลายกันบ้าง ซึ่งเราควรจะเริ่มดูจากอะไรบ้างนั้น ไปอ่านกันเลยค่ะ
1. ประเภทที่จะใช้งาน
https://unsplash.com/photos/zHMpGLOD8nI
แปรงสีฟันไฟฟ้ามีหลายแบบให้เลือกใช้ ทั้งแบบสั่นหรือหัวแปรงแบบหมุน ซึ่งหาซื้อได้ง่าย และมีราคาถูกกว่า เหมาะกับมือใหม่ที่เพิ่งเริ่มใช้แปรงสีฟันไฟฟ้า หรือจะเลือกเป็นแบบแปรงพลังคลื่นเสียงหรือแปรงโซนิคก็ได้ ซึ่งทำความสะอาดได้ดีกว่า สามารถขจัดคราบแบคทีเรียและหินปูนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
2. แหล่งพลังงานที่ใช้
https://pixabay.com/photos/battery-alkaline-batteries-charge-4912813/
ส่วนใหญ่แหล่งพลังงานของแปรงสีฟันไฟฟ้าจะมีอยู่ 2 ประเภท ได้แก่ แบบชาร์จไฟ และแบบใช้ถ่าน แบบชาร์จไฟจะมีราคาสูงกว่า แต่ก็ไม่ต้องเสียค่าเปลี่ยนถ่ายยิบย่อยทีหลัง และแรงสั่นสะเทือนคงที่ตลอดเวลาจนกว่าไฟจะหมด ส่วนแบบใช้ถ่านราคาจะถูกกว่า สามารถพกพาได้ง่าย แต่ต้องเปลี่ยนถ่านประจำ และแรงสั่นสะเทือนจะต่ำเมื่อถ่านใกล้หมด
3. ขนาดที่พอดีกับมือ
https://pixabay.com/photos/electric-zahb%C3%BCrste-toothbrush-115121/
แปรงสีฟันไฟฟ้ามักจะมีขนาดด้ามที่ใหญ่กว่าแปรงสีฟันปกติทั่วไป เราจึงต้องเลือกใช้อันที่ถนัดมือ ซึ่งก็มีหลายรุ่นที่ตัวด้ามมีขนาดเล็กพอดีกับมือ แต่ก็ขึ้นอยู่ว่าคุณจะถนัดกับด้ามแบบไหน บางคนจะจับถนัดมือกว่าหากด้ามใหญ่ แต่บางคนก็รู้สึกเทอะทะจนเกินไป จึงควรเลือกด้ามเล็กที่พอดีกับมือของเรา
4. เปลี่ยนหัวแปรงได้
https://pixabay.com/photos/toothbrush-dental-hygiene-115105/
แปรงสีฟันไฟฟ้าจะมีบางรุ่นที่เปลี่ยนหัวแปรงไม่ได้ ซึ่งมีราคาถูก แต่เมื่อใช้ไปสักพักหัวแปรงจะเริ่มหมักหมมสะสมเชื้อแบคทีเรีย จึงจำเป็นต้องเปลี่ยนหัวแปรงใหม่ ซึ่งหากเราเลือกใช้รุ่นที่เปลี่ยนหัวแปรงได้ จะช่วยประหยัดได้มากกว่า เพราะไม่ต้องทิ้งทั้งด้ามนั่นเอง
5. ปรับโหมดได้
https://pixabay.com/illustrations/electric-brush-teeth-cleaning-3597623/
สำหรับมือใหม่หัดใช้แปรงสีฟันไฟฟ้า ควรเลือกแบบที่สามารถปรับโหมดการทำความสะอาดได้ เพราะการแปรงฟันด้วยแปรงสีฟันไฟฟ้าครั้งแรกนั้นอาจจะยังไม่คุ้น ทำให้รู้สึกเจ็บเหงือก เราจึงควรเลือกรุ่นที่ปรับโหมดเป็นแรงสั่นสะเทือนต่ำได้ และควรเลือกหัวแปรงที่นุ่ม เพื่อให้รู้สึกสบายเวลาใช้งาน
แปรงสีฟันไฟฟ้า Xiaomi ดีไหม
https://shopee.co.th/Xiaomi-SOOCAS-X3-Sonic-Electronic-Toothbrush
แปรงสีฟันไฟฟ้า Xiaomi เป็นแปรงสีฟันไฟฟ้าอัจฉริยะระบบโซนิค สามารถขจัดคราบแบคทีเรียและลดการตายของเนื้อเยื่อเหงือกในช่องปากได้ ด้วยแรงสั่นสะเทือนที่ออกแบบมาพิเศษ จะช่วยให้คุณทำความสะอาดช่องปากและฟันได้ดีขึ้น 40%
ทั้งยังสามารถเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชั่นตั้งค่าการทำงานในโหมดต่างๆ และเช็คสถานะค่าของแบตเตอรี่ วันหมดอายุของหัวแปรงได้อีกด้วย มาพร้อมกับแท่นชาร์จไร้สาย ไม่ต้องเสียบสายชาร์จให้ยุ่งยากอีกต่อไป สะดวกแก่การใช้งาน ด้ามออกแบบให้จับง่าย ถนัดมือ มีให้เลือก 3 สี 3 สไตล์ ทั้งสีขาวดูเรียบหรู สีดำดูเท่เหมาะกับผู้ชาย และสีชมพูสายหวานเหมาะกับคุณผู้หญิง
บทสรุปส่งท้าย
https://unsplash.com/photos/CsPCTYYxalw
เราควรจะใช้แปรงสีฟันไฟฟ้าหรือไม่ เริ่มจากว่าคุณให้ความสำคัญกับการทำความสะอาดช่องปากและฟันแค่ไหน เพราะแปรงสีฟันไฟฟ้าทำความสะอาด ขจัดคราบพลัคและคราบหินปูนได้ดีกว่าแปรงสีฟันธรรมดา ทั้งยังใช้งานได้สะดวกกว่าอีกด้วย ซึ่งเป็นตัวช่วยอย่างดีสำหรับการดูแลสุขภาพช่องปากและฟันของคุณให้สะอาดปราศจากคราบแบคทีเรีย
