แปรงสีฟันไฟฟ้ากับแปรงธรรมดา มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันอย่างไร

 

แปรงสีฟัน ไฟฟ้า รีวิว

https://unsplash.com/photos/CsPCTYYxalw

 

แปรงสีฟันเป็นอุปกรณ์ทำความสะอาดช่องปากและฟันที่ทุกคนจำเป็นต้องใช้ โดยเราควรแปรงฟันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง คือหลังตื่นนอนตอนเช้า และก่อนเข้านอนตอนกลางคืน ซึ่งเป็นกิจวัตรประจำวันที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับทุกคน ดังนั้นเราจึงควรเลือกแปรงสีฟันที่ดีที่สุดที่เหมาะกับเรามาไว้ใช้งาน ซึ่งแปรงสีฟันแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ คือแปรงสีฟันธรรมดา กับแปรงไฟฟ้า โดยแต่ละแบบมีข้อดีและข้อเสียต่างกันอย่างไร มาอ่านกันเลยค่ะ

 

แปรงสีฟันธรรมดา

 

แปรงสีฟัน ไฟฟ้า รีวิว

https://pixabay.com/photos/toothbrush-toothpaste-hygiene-blue-2589480/

 

ในสมัยก่อนการทำความสะอาดฟัน ทำได้ด้วยการนำเศษผ้าชิ้นเล็กๆ มาขัดถูบริเวณฟัน จนมีชายหนุ่มชาวอังกฤษซึ่งมีเวลาว่าง เพราะเขาติดคุกอยู่ในขณะนั้น ได้คิดค้นแปรงสีฟันขึ้นมาจากเศษกระดูก ขนแปรง และกาว เขาเอามาประกอบกันจนเป็นแปรงสีฟัน และหลังจากที่เขาพ้นจากเรือนจำ ก็ได้ผลิตขายจำหน่ายในเวลาต่อมา ซึ่งก็ได้รับความสนใจมากมายจากขนทั่วโลก และก็ถูกปรับปรุงและเปลี่ยนแปลงเป็นแปรงสีฟันในปัจจุบันนี้นั่นเอง เรามาดูกันว่าข้อดีและข้อเสียของแปรงสีฟันธรรมดานั้นมีอะไรบ้าง

 

ข้อดี
1. ราคาถูก โดยราคาทั่วไปจะอยู่ที่ประมาณ 30-300 บาท
2. หาซื้อได้ง่าย เพราะใช้กันทั่วไป
3. มีให้เลือกใช้หลากหลายแบบ
4. ไม่ต้องใช้ถ่านแบตเตอรี่ ไม่ต้องชาร์จไฟ จึงสะดวกแก่การใช้งาน
5. พกพาไปได้ทุกที่ โดยไม่ต้องมีอุปกรณ์เสริม
ข้อเสีย
1. ไม่มีตัวจับเวลา ซึ่งการแปรงฟันที่ถูกต้องควรแปรงอย่างน้อย 2 นาที โดยหากใช้แปรงสีฟันธรรมดา เราไม่รู้เลยว่าครบ 2 นาทีหรือยัง
2. อาจทำความสะอาดได้ไม่ทั่วถึง เพราะขนาดหัวแปรงมักจะใหญ่จนเกินไป ทำให้ซอกซอนชอนไชไปในช่องต่างๆ ได้ยาก
3. ต้องออกแรงทุกครั้งที่แปรงฟัน ซึ่งบางครั้งอาจจะทำให้รู้สึกเมื่อยมือก็เป็นได้

แปรงสีฟันไฟฟ้า

 

แปรงสีฟัน ไฟฟ้า รีวิว

https://www.freeimages.com/photo/electric-toothbrush-1423660

 

แปรงสีฟันไฟฟ้ามีมานานแล้ว ตั้งแต่ค.ศ.1930 โดยมีการปรับปรุงและพัฒนามาเรื่อยๆ จนถึงปัจจุบันที่สามารถทำงานได้หลากหลายฟังก์ชั่น และมีรูปแบบที่ทันสมัยสะดวกต่อการใช้งานมากขึ้น เรามาดูข้อดีและข้อเสียของแปรงสีฟันไฟฟ้ากันว่ามีอะไรบ้าง หากเปรียบเทียบกับแปรงสีฟันธรรมดาทั่วไปจะเป็นอย่างไร

 

ข้อดี
1. ใช้งานง่าย เพียงทำมุมกับฟัน 45 องศาแล้วเลื่อนไปเรื่อยๆ ตามบริเวณซอกฟัน เพียงเท่านี้ก็สะอาดอย่างทั่วถึงแล้ว
2. ออกแรงน้อยแต่ได้ผลลัพธ์เกินขาด โดยสามารถขจัดคราบพลัคและหินปูนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
3. มีระบบจับเวลา ทำให้ไม่ต้องคอยคาดเดาว่า เมื่อไหร่จะครบ 2 นาที
4. เปลี่ยนประสบการณ์แปรงฟันของคุณให้สนุกและไม่เบื่อหน่ายอีกต่อไป
ข้อเสีย
1. มีราคาที่สูง โดยอยู่ที่ประมาณด้ามละ 500-10,000 บาท
2. จำเป็นต้องมีแหล่งพลังงานไฟฟ้าจากถ่านหรือการชาร์จไฟ ทำให้อาจไม่สะดวกเมื่อต้องพกพาไปข้างนอก
3. อาจพังได้ง่ายเมื่อตกจากที่สูงแรงๆ เวลาใช้จึงต้องระมัดระวังไม่ให้หล่นหรือหลุดมือ

สรุปแล้วเราควรเลือกใช้แปรงสีฟันแบบไหนดี

 

แปรงสีฟัน ไฟฟ้า รีวิว

https://pixabay.com/photos/toothbrush-smile-teeth-mouth-oral-2696810/

 

สำหรับใครที่กำลังลังเลอยู่ว่าจะเลือกใช้แปรงสีฟันธรรมดาต่อไป หรือเลือกเปิดประสบการณ์ใหม่จากแปรงสีฟันไฟฟ้า ก็ให้พิจารณาดูในหลายๆ ด้าน ทั้งงบประมาณ ความถนัด และความสะอาดที่อาจต้องการมากกว่าเดิม โดยคุณอาจจะลองซื้อแปรงสีฟันไฟฟ้าสักอันมาใช้ก่อน แล้วค่อยตัดสินดูว่าแปรงสีฟันแบบไหนที่ใช่สำหรับคุณ