เลือกเครื่องฟอกอากาศชาร์ป (SHARP) อย่างไร
ให้เหมาะกับห้องที่สุด!!!
SHARP... เป็นหนึ่งในแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าชื่อดัง ที่เชื่อว่าในบ้านทุกหลังต้องมีอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าของแบรนด์นี้อยู่บ้างสัก 2-3 ชิ้นอย่างแน่นอน ซึ่งหนึ่งในอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ได้รับการรีวิว แนะนำ และกล่าวถึงกันอยู่บ่อยครั้งก็คือ “เครื่องฟอกอากาศชาร์ป (SHARP)” ที่เป็นหนึ่งในตัวช่วยในการฟอกอากาศภายในห้องต่างๆในบ้านให้มีความสะอาดมากขึ้น ซึ่งเป็นการช่วยส่งเสริมให้สุขภาพของคนที่คุณรักดีมากยิ่งขึ้นกว่าเดิมนั่นเอง ถึงแม้ว่าเครื่องฟอกอากาศชาร์ป (SHARP) จะมีประสิทธิภาพที่เรียกได้ว่าสุดแสนน่าสนใจ แต่ถ้าหากทำการเลือกขนาดของเครื่องฟอกอากาศชาร์ป (SHARP) ไม่เหมาะสมก็จะเป็นการลดประสิทธิภาพในการฟอกอากาศให้น้อยลงอย่างมากเช่นกัน มาดูกันดีกว่าว่าควรเลือกเครื่องฟอกอากาศชาร์ป (SHARP) รุ่นไหน แบบใด ถึงจะช่วยให้การฟอกอากาศเป็นไปได้อย่างเต็มประสิทธิภาพมากกว่าเดิม โดยอิงจากขนาดห้องเพื่อให้ง่ายต่อการเลือกเครื่องฟอกอากาศชาร์ป (SHARP) ดังต่อไปนี้
เครื่องฟอกอากาศชาร์ป (SHARP) ที่เหมาะกับห้องขนาด 62 ตารางเมตร
สำหรับห้องขนาด 62 ตารางเมตร จำเป็นที่จะต้องเลือกเครื่องฟอกอากาศชาร์ป (SHARP) ที่มีขนาดใหญ่เป็นพิเศษ ไม่อย่างนั้นจะเป็นการลดประสิทธิภาพในการฟอกอากาศให้น้อยลงเป็นอย่างมาก ซึ่งในปัจจุบัน เครื่องฟอกอากาศชาร์ป (SHARP) ที่เหมาะสมมีรุ่นดังต่อไปนี้
- เครื่องฟอกอากาศชาร์ป (SHARP) รุ่น FP-J80TA-H
- เครื่องฟอกอากาศชาร์ป (SHARP) รุ่น FU-A80TA-N
- เครื่องฟอกอากาศชาร์ป (SHARP) รุ่น FU-A80TA-W
เครื่องฟอกอากาศชาร์ป (SHARP) ที่เหมาะกับห้องขนาด 48 ตารางเมตร
- เครื่องฟอกอากาศชาร์ป (SHARP) รุ่น FP-J60TA-W
เครื่องฟอกอากาศชาร์ป (SHARP) ที่เหมาะกับห้องขนาด 40 ตารางเมตร
- เครื่องฟอกอากาศชาร์ป (SHARP) รุ่น FP-G50TA-W
เครื่องฟอกอากาศชาร์ป (SHARP) ที่เหมาะกับห้องขนาด 30 ตารางเมตร
- เครื่องฟอกอากาศชาร์ป (SHARP) รุ่น FP-J40TA-W
- เครื่องฟอกอากาศชาร์ป (SHARP) รุ่น FP-F40TA-W หรือ T
เครื่องฟอกอากาศชาร์ป (SHARP) ที่เหมาะกับห้องขนาด 23 ตารางเมตร
- เครื่องฟอกอากาศชาร์ป (SHARP) รุ่น FP-J30TA-A (B หรือ P)
เครื่องฟอกอากาศชาร์ป (SHARP) ที่เหมาะกับห้องขนาด 21 ตารางเมตร
- เครื่องฟอกอากาศชาร์ป (SHARP) รุ่น FP-F30TA-A
ประโยชน์และคุณสมบัติที่น่าสนใจของเครื่องฟอกอากาศชาร์ป (SHARP)
สำหรับเครื่องฟอกอากาศชาร์ป (SHARP) นั้น ได้รับการพัฒนาออกแบบมาด้วยการเน้นไปที่ระบบกรองอากาศที่สามารถทำการกรองอากาศดักฝุ่นละออง รวมไปถึงเชื้อโรค เชื้องไวรัส ฯลฯ โดยเฉพาะฝุ่น PM 2.5 ที่กำลังเป็นปัญหากวนใจชาวเมืองหลวงอย่างมากในปัจจุบัน อย่างเข้มข้นมากกว่าปกติถึง 3 เท่า เลยทีเดียว นอกจากนี้ยังช่วยสลายกลิ่นอับชื้น ซึ่งช่วยทำให้ห้องเต็มไปด้วยกลิ่นแห่งความปลอดโปร่งมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม ยังไม่รวมจุดเด่นที่สุดแสนน่าสนใจอย่างเรื่องของแผ่นกรองฝุ่น และกลิ่น ที่มีอายุการใช้งานมากขึ้นกว่าเดิมถ้าหากไม่ใช้งานหนักมากจนเกินไปอาจใช้งานได้นานกว่า 2 ปี เลยทีเดียว
ทำไมถึงควรเลือกเครื่องฟอกอากาศชาร์ป (SHARP) ให้เหมาะกับห้องมากที่สุด
การเลือกเครื่องฟอกอากาศชาร์ป (SHARP) ให้เหมาะกับขนาดของห้อง เป็นเรื่องสำคัญที่ควรให้ความใส่ใจเป็นอย่างมาก เพราะยิ่งเลือกให้มีความเหมาะสมมากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งให้คุณใช้งานเครื่องฟอกอากาศชาร์ป (SHARP) ได้อย่างคุ้มค่ามากขึ้นเท่านั้น..
เลือกเครื่องฟอกอากาศชาร์ป (SHARP) ขนาดเล็กกว่าห้องจนเกินไป
การเลือกเครื่องฟอกอากาศชาร์ป (SHARP) ที่มีขนาดเล็กมากจนเกินไปส่งผลเสียอย่างมากต่อการฟอกอากาศ เพราะเครื่องไม่สามารถทำการฟอกอากาศของทั่วห้องได้อย่างทั่วถึง ทำให้ไรฝุ่น ฝุ่นละออง เชื้อไวรัส แบคทีเรีย รวมไปถึงกลิ่นอับชื้นยังคงเต็มตลบไปทั่วทั้งห้องเหมือนเดิม ราวกับไม่ได้ทำการเปิดใช้งานเครื่องฟอกอากาศ นอกจากนี้ยังส่งผลให้เครื่องฟอกอากาศชาร์ป (SHARP) ทำงานหนักมากจนเกินความจำเป็น กระทั่งทำให้อายุขัยในการใช้งานของเครื่องลดน้อยลง
เลือกเครื่องฟอกอากาศชาร์ป (SHARP) ขนาดใหญ่กว่าห้องจนเกินไป
การเลือกใช้เครื่องฟอกอากาศชาร์ป (SHARP) ที่เหมาะกับห้องขนาดใหญ่ ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้วห้องมีขนาดที่เล็กมากจะทำให้เกิดการสิ้นเปลืองค่าไฟฟ้าโดยใช่เหตุ และที่สำคัญเลยคือ เครื่องฟอกอากาศชาร์ป (SHARP) ที่มีขนาดใหญ่นั้นมีราคาของเครื่องที่ค่อนข้างสูงกว่าเครื่องเล็กอย่างมากเลยทีเดียว ดังนั้น การซื้อเครื่องฟอกอากาศขนาดใหญ่ จึงเป็นความสิ้นเปลืองโดยใช่เหตุนั่นเอง
เมื่อทราบรุ่นของเครื่องฟอกอากาศชาร์ป (SHARP) ที่เหมาะกับขนาดห้องของตัวเองแล้ว เชื่อว่าตอนนี้หลายคนคงสามารถทำการเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศชาร์ป (SHARP) ที่จะช่วยฟอกอากาศให้มีความสะอาด บริสุทธิ์ปราศจากเชื้อโรค ฝุ่น และเชื้อไวรัส ฯลฯ ที่เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดอาการป่วยได้เป็นอย่างดี เห็นไหมล่ะว่าผลลัพธ์ที่ได้ตอบแทนมาจากการลงทุนซื้อเครื่องฟอกอากาศชาร์ป (SHARP) ในราคาเพียงไม่กี่พันบาทเพียงเครื่องเดียวเรียกได้ว่าสุดแสนคุ้มค่าเป็นอย่างมากเลยทีเดียว แบบนี้คงต้องหาซื้อมาใช้ฟอกอากาศในบ้านให้สะอาดมากขึ้นสักเครื่องกันแล้ว...