เลือกเครื่องฟอกอากาศมือสองอย่างไรให้ได้ของถูก ดี ปัง!
เครื่องฟอกอากาศ… เป็นหนึ่งในเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ควรมีติดบ้านเอาไว้เพื่อช่วยในการรับมือกับปัญหามลภาวะทางอากาศที่มากขึ้นในปัจจุบัน อย่างไรก็ตามด้วยกำลังทรัพย์ที่แตกต่างกันทำให้หลายคนตัดสินใจที่จะทำการซื้อเครื่องฟอกอากาศมือสองที่มีราคาถูกกว่ามาใช้งานในที่พักของตัวเอง แนวคิดในการประหยัดสตางค์ในกระเป๋าให้น้อยลงด้วยการซื้อเครื่องฟอกอากาศมือสองเป็นสิ่งที่น่าสนใจ แต่อย่างไรก็ตามก็ขอแนะนำว่าให้ทำการเลือกเครื่องฟอกอากาศมือสองด้วยความรอบคอบ เพื่อให้ได้รับเครื่องฟอกอากาศที่ผ่านการใช้งานมาแล้ว แต่ยังคงไว้ซึ่งประสิทธิภาพที่น่าสนใจ ด้วยความห่วงใยในสุขภาพของคุณ และคนที่รักนั่นเอง ถ้าหากใครกำลังให้ความสนใจกับเครื่องฟอกอากาศมือสอง ขอแนะนำให้ทำการตรวจสอบรวมไปถึงสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับเครื่องฟอกอากาศมือสองตามคำแนะนำดังต่อไปนี้กันได้เลย
เคล็ดลับในการเลือกเครื่องฟอกอากาศที่ไม่ควรมองข้าม
เลือกเครื่องฟอกอากาศมือสอง : อายุการใช้งาน
ยิ่งเครื่องฟอกอากาศมือสองใช้งานมานานมากเท่าไหร่ อายุการใช้งานก็จะยิ่งเหลือน้อยลงเท่านั้น ดังนั้น การเลือกเครื่องฟอกอากาศมือสองที่ยังพึ่งใช้งานได้ไม่นานไม่กี่เดือน จึงเป็นหนึ่งในเคล็ดลับที่จะได้รับเครื่องฟอกอากาศมือสองชั้นดีมาครอบครองได้อย่างง่ายดาย
เลือกเครื่องฟอกอากาศมือสอง : สภาพของแผ่นกรองอากาศ
โดยพื้นฐานแล้วแผ่นกรองอากาศจะมีอายุการใช้งานตั้งแต่ 1-6 เดือน ส่วนเกรดชั้นยอดบางแบรนด์อาจใช้ได้นานนับปี โดยที่ไม่จำเป็นต้องทำการเปลี่ยนแผ่นกรองอากาศแต่อย่างใด ดังนั้น เมื่อสนใจเครื่องฟอกอากาศมือสองเครื่องใด ขอแนะนำว่าควรสอบถามให้มั่นใจก่อนว่าครั้งสุดท้ายที่ทำการเปลี่ยนแผ่นกรองอากาศคือเมื่อไหร่!? เพื่อที่จะได้คำนวณระยะเวลาการใช้งานที่เหลืออยู่ของแผ่นฟอกอากาศได้อย่างเหมาะสม
เลือกเครื่องฟอกอากาศมือสอง : หาอะไหล่และศูนย์บริการได้ง่าย
ขึ้นชื่อว่าเป็นของ “มือสอง” ย่อมหมายความว่าได้ผ่านการใช้งานมาระยะเวลาหนึ่งแล้ว ดังนั้น จึงมีโอกาสที่อุปกรณ์ภายใน โดยเฉพาะแผ่นกรองอากาศมีการเสื่อมสภาพไปตามระยะเวลาที่ผ่านไป ดังนั้น การเลือกเครื่องฟอกอากาศมือสองแบรนด์ที่หาซื้ออะไหล่ได้ง่ายดาย ในราคาประหยัด และยังสามารถหาศูนย์บริการเพื่อช่วยในการซ่อมบำรุงได้ง่าย จึงเป็นสิ่งที่ควรให้ความใส่ใจเป็นอย่างมากเลยทีเดียว
เลือกเครื่องฟอกอากาศมือสอง : ที่ยังอยู่ในระยะประกัน
โดยพื้นฐานแล้ว หลังจากที่ทำการซื้อเครื่องฟอกอากาศมาใช้งานในบ้าน มักที่จะได้ใบรับประกันการใช้งานอย่างน้อยหนึ่งปี ถ้าหากเครื่องฟอกอากาศมือสองที่ถูกนำมาขายต่อยังอยู่ในระหว่างการรับประกันก็ถือว่าเป็นสิ่งที่มีความน่าสนใจเป็นอย่างมาก เพราะจะช่วยทำให้อุ่นใจว่าหากเครื่องฟอกอากาศมีปัญหาในระยะเวลาดังกล่าว ก็ยังสามารถทำการติดต่อกับทางศูนย์บริการให้ช่วยจัดการกับปัญหาได้อีกด้วย
เลือกเครื่องฟอกอากาศมือสอง : ตรวจสอบความดันไฟฟ้าให้เหมาะสม
เครื่องฟอกอากาศมือสองที่นำมาขายทอดตลาดให้เลือกในปัจจุบัน ส่วนหนึ่งมักเป็นเครื่องฟอกอากาศมือสองที่ถูกนำเข้ามาจากประเทศญี่ปุ่น สิ่งที่แตกต่างกันระหว่างเครื่องฟอกอากาศของไทยกับของญี่ปุ่นคือ ความดันของไฟฟ้าที่ใช้ในบ้านไม่เท่ากัน เพราะไฟญี่ปุ่นมีความดันไฟฟ้าเพียง 100 V. เท่านั้น ถ้าหากเครื่องฟอกอากาศมือสองที่คุณกำลังให้ความสนใจเป็นของที่ใช้ในประเทศญี่ปุ่น ขอแนะนำว่าให้ตรวจสอบว่ามีหม้อแปลงแรงดันไฟฟ้ามาให้ด้วยหรือไม่ ไม่อย่างนั้นจะไม่สามารถใช้งานกับไฟบ้านของประเทศไทยได้
เลือกเครื่องฟอกอากาศ : เหมาะกับห้องและการใช้งาน
ปัจจัยสำคัญในการเลือกเครื่องฟอกอากาศคงเป็นอะไรไปไม่ได้นอกเหนือจากเรื่องของราคา แต่ที่จริงแล้วราคาอาจไม่ใช่สิ่งที่ควรให้ความใส่ใจมากที่สุด ดังนั้น อย่าเห็นแก่เรื่องของราคาที่ถูกจนเกินไป แล้วหันมาใส่ใจการเลือกเครื่องฟอกอากาศมือสองที่เหมาะกับขนาดของห้อง และการใช้งานที่เหมาะสมมากที่สุด เช่น มีคุณสมบัติในการกรอง ฆ่าเชื้อโรคที่เป็นอันตรายกับสุขภาพมากน้อยเพียงใด หรือมีคุณสมบัติในการช่วยเพิ่มความชื้นให้กับอากาศให้มีความเหมาะสมหรือไม่!? สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งสำคัญที่คนส่วนใหญ่กลับมองข้ามไปอย่างน่าเสียดายผ่านเงื่อนไขคำว่า “ของถูก” แต่ถ้าปล่อยวางเรื่องของถูกได้ รับรองว่าเครื่องฟอกอากาศมือสองที่ซื้อมาจะมีประสิทธิภาพที่น่าสนใจอย่างมากเลยทีเดียว
หลังจากที่ได้อ่านคำแนะนำเกี่ยวกับการเลือกเครื่องฟอกอากาศมือสองอย่างไรให้โดนใจ! ให้ปัง! เหมาะกับบ้านของคุณกันไปแล้ว เชื่อว่าในตอนนี้หลายคนคงพร้อมที่จะทำการเลือกเครื่องฟอกอากาศมือสองที่เหมาะกับตัวเอง ดีที่สุด ในราคาสุดแสนประหยัดกันได้อย่างแน่นอน...
