

เครื่องดูดฝุ่นในรถยนต์ เลือกซื้ออย่างไร ให้ฝุ่นกวนใจหายหมด!?
สำหรับคนรักรถยนต์... การมีฝุ่น และสิ่งสกปรกกวนใจตกอยู่ภายในเป็นจำนวนมาก คงเป็นสิ่งที่ทำให้ไม่ ปลื้ม!!! อย่างมากเลยทีเดียว ทำให้เครื่องดูดฝุ่นในรถยนต์จึงกลายมาเป็นพระเอกขี่ม้าขาวมาช่วยแก้ไขปัญหากำจัดฝุ่น สิ่งสกปรกต่างๆที่หากปล่อยทิ้งเอาไว้ อาจทำให้เกิดปัญหาเรื่องกลิ่นไม่พึงประสงค์ขึ้นนั่นเอง แต่ช้าก่อน! ก่อนที่จะซื้อหาเครื่องดูดฝุ่นในรถยนต์มาใช้งาน ขอแนะนำให้อ่านคำแนะนำจากบทความชิ้นนี้ให้จบเสียก่อน รับรองว่าจะช่วยให้ตัดสินใจเลือกซื้อเครื่องดูดฝุ่นในรถยนต์ได้อย่างยอดเยี่ยม โดนใจมากขึ้นกว่าเดิมได้อย่างแน่นอน...
เลือกเครื่องดูดฝุ่นในรถยนต์ : ให้ความสำคัญกับแหล่งจ่ายพลังงาน
โดยทั่วไปแล้วเครื่องดูดฝุ่นในรถยนต์จะมีแหล่งจ่ายพลังงาน 2 แบบ ดังต่อไปนี้
1.เครื่องดูดฝุ่นในรถยนต์แบบแบตเตอรี่ในตัว
เป็นเครื่องดูดฝุ่นในรถยนต์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เพราะสามารถทำงานได้แบบไร้สาย สะดวก แต่ข้อเสียคือไม่สามารถทำงานได้อย่างยาวนานต่อเนื่องเหมือนกับเครื่องดูดฝุ่นในรถยนต์แบบที่มีสาย และยิ่งขนาดของแบตเตอรี่เล็กเท่าไหร่ ระยะเวลาในการใช้งานก็จะสั้นตามไปด้วย
2.เครื่องดูดฝุ่นในรถยนต์แบบมีสาย
ส่วนใหญ่แล้วเครื่องดูดฝุ่นในรถยนต์แบบมีสายจะเป็นการใช้พลังงานจากการเสียบที่ USB หรือที่จุดบุหรี่ของรถยนต์ ทำให้สามารถใช้งานได้อย่างยาวนานมากกว่า แต่ก็มีความเกะกะในการใช้งานเนื่องจากมีสายไฟยาวออกมาให้รู้สึกรำคาญใจนั่นเอง
เลือกเครื่องดูดฝุ่นในรถยนต์ : อุปกรณ์เสริมสำคัญกว่าที่คิด
โดยทั่วไปแล้วการทำความสะอาดรถยนต์ ขอเพียงแค่มีหัวแปรงเสริม และท่อหัวอ่อน ก็ถือว่ามีความเพียงพอแล้ว แต่ในซอกแคบระหว่างเบาะก็ยังคงเป็นส่วนที่ยากสำหรับการทำความสะอาด ดังนั้น การมีหัวแปรงเสริมที่มีขนาดเหมาะสม ก็จะช่วยให้การทำความสะอาดเป็นไปได้อย่างง่ายดายมากขึ้นเช่นกัน
เลือกเครื่องดูดฝุ่นในรถยนต์ : ที่มีพลังในการดูดสูง
พลังดูดของเครื่องดูดฝุ่นในรถยนต์เป็นสิ่งที่มีความสำคัญ เพราะฝุ่นที่ติดอยู่ในรถยนต์ส่วนใหญ่แล้วจะมีการสะสมอยู่เป็นจำนวนมากกว่าในบ้านเสียอีก สำหรับเครื่องดูดฝุ่นในรถยนต์ที่มีพลังในการดูดที่มากที่สุดในปัจจุบันก็คงจะเป็นอะไรไปไม่ได้ นอกจากเครื่องดูดฝุ่นแบบไซโคลนนั่นเอง...
มารู้จักกับ 12 เครื่องดูดฝุ่นในรถยนต์ ยี่ห้อไหนดี ราคาถูก พลังสูงที่ไม่ควรพลาดในปี 2020 กัน
ในปัจจุบันเครื่องดูดฝุ่นในรถยนต์ที่ได้รับความนิยม สำหรับคนที่ไม่ค่อยได้ทำความสะอาดรถยนต์มากนักมักจะเป็นเครื่องดูดฝุ่นแบบมือถือ ที่มีแบตเตอรี่ในตัวเป็นหลัก เพราะมีขนาดที่เล็กกะทัดรัด และสามารถพกพาได้อย่างสะดวก และเครื่องดูดฝุ่นแบบ 2 in 1 ที่สามารถถอดตัวเครื่องดูดฝุ่นออกมาจากด้ามจับ เพื่อนนำมาใช้งานในรูปแบบของมือถือในรถยนต์นั่นเอง สำหรับเครื่องดูดฝุ่นในรถยนต์ที่น่าสนใจในปี 2020 มีทั้งหมด 12 รุ่น ที่อยากแนะนำให้รู้จัก ดังต่อไปนี้

ราคา | 8,990 บาท |
ประเภท | ไร้สาย |
วิธีเก็บฝุ่น | กล่องเก็บฝุ่น |
ขนาด | 28.5 x 11.5 x 18.0 ซม. |
น้ำหนัก | 3 กก. |
แหล่งพลังงาน | แบตเตอรี่ลิเธียม |
รับประกัน | 1 ปี |

ราคา | 11,900 บาท |
ประเภท | ไร้สาย |
วิธีเก็บฝุ่น | ไซโคลน |
ขนาด | 11.5 x 26.5 x 18.0 ซม. |
น้ำหนัก | 3 กก. |
แหล่งพลังงาน | แบตลิเทียมไอออน |
รับประกัน | - |

ราคา | 2,490 บาท |
ประเภท | ไร้สาย |
วิธีเก็บฝุ่น | กล่องเก็บฝุ่น |
ขนาด | 11.0 x 13.8 x 36.8 ซม. |
น้ำหนัก | 1 กก. |
แหล่งพลังงาน | แบตเตอรี่ |
รับประกัน | 2 ปี |

ราคา | 16, 900บาท |
ประเภท | ไร้สาย |
วิธีเก็บฝุ่น | ไซโคลน |
ขนาด | 25.60 x 110.0 x 13.0 ซม. |
น้ำหนัก | 3.53 กก. |
แหล่งพลังงาน | แบตเตอรี่ |
รับประกัน | 2 ปี |

ราคา | 19, 900บาท |
ประเภท | ไร้สาย |
วิธีเก็บฝุ่น | ไซโคลน |
ขนาด | 24.5 x 50.0 x 70.2 ซม. |
น้ำหนัก | 5 กก. |
แหล่งพลังงาน | แบตเตอรี่ลิเทียมไออน |
รับประกัน | 2 ปี |

ราคา | 11,900บาท |
ประเภท | ไร้สาย |
วิธีเก็บฝุ่น | กล่องเก็บฝุ่น |
ขนาด | 15.0 x 107.0 x 28.30 ซม. |
น้ำหนัก | 3.36 กก. |
แหล่งพลังงาน | แบตเตอรี่ |
รับประกัน | 2 ปี |

ราคา | 1,590 บาท |
ประเภท | ไร้สาย |
วิธีเก็บฝุ่น | กล่องเก็บฝุ่น |
ขนาด | 115.0 x 23.5 x 17.5 ซม. |
น้ำหนัก | 1.8 กก. |
แหล่งพลังงาน | แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน |
รับประกัน | 1 ปี |

ราคา | 5,278 บาท |
ประเภท | ไร้สาย |
วิธีเก็บฝุ่น | กล่องเก็บฝุ่น |
ขนาด | .0 x .0 x .0 ซม. |
น้ำหนัก | 1.5 กก. |
แหล่งพลังงาน | แบตเตอรี่ |
รับประกัน | 1 ปี |
ราคา | 489 บาท |
ประเภท | ไร้สาย |
วิธีเก็บฝุ่น | กล่องเก็บฝุ่น |
ขนาด | 4.2 x 10.2 x 25.5 ซม. |
น้ำหนัก | 1 กก. |
แหล่งพลังงาน | ไฟบ้าน |
รับประกัน | 1 ปี |

ราคา | 2,490 บาท |
ประเภท | ไร้สาย |
วิธีเก็บฝุ่น | กล่องเก็บฝุ่น |
ขนาด | 11.0 x 13.8 x 36.8 ซม. |
น้ำหนัก | 1 กก. |
แหล่งพลังงาน | แบตเตอรี่ |
รับประกัน | 2 ปี |

ราคา | 3,590 บาท |
ประเภท | ไร้สาย |
วิธีเก็บฝุ่น | กล่องเก็บฝุ่น |
ขนาด | 11.0 x 13.8 x 36.8 ซม. |
น้ำหนัก | 1 กก. |
แหล่งพลังงาน | แบตเตอรี่ |
รับประกัน | 2 ปี |

ราคา | 19,990 บาท |
ประเภท | ไร้สาย |
วิธีเก็บฝุ่น | กล่องเก็บฝุ่น |
ขนาด | 38.0 x 79.0 x 16.0 ซม. |
น้ำหนัก | 2.73 กก. |
แหล่งพลังงาน | แบตเตอรี่ |
รับประกัน | 2 ปี |
เทคนิคเพิ่มเติมสำคัญในการใช้เครื่องดูดฝุ่นในรถยนต์ให้มีประสิทธิภาพที่สุด!!!
ในการกำจัดฝุ่นที่สะสมตัวอยู่ภายในรถยนต์ ไม่ใช้ง่ายเพียงแค่ใช้เครื่องดูดฝุ่นในรถยนต์กวาดไปมา แล้วจะสามารถกำจัดฝุ่นออกไปได้หมดในทันที ถ้าหากใครอยากกำจัดฝุ่นและสิ่งสกปรกให้หมดไปอย่างรวดเร็วจริงๆ ขอแนะนำให้ปฏิบัติตามขั้นตอนดังต่อไปนี้กันได้เลย
ใช้ผ้าทำความสะอาดร่วมกับเครื่องดูดฝุ่นในรถยนต์ เพิ่มพลัง x2
หลังจากที่ได้ทำการใช้เครื่องดูดฝุ่นในรถยนต์ดูดฝุ่นไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ลองใช้ผ้าเช็ดทำความสะอาดอีกครั้ง รับรองว่าจะช่วยกำจัดไรฝุ่นให้น้อยลงได้เป็นอย่างดีมากขึ้นอีกด้วย
แหล่งสำคัญที่ควรใส่ใจ ใช้เครื่องดูดฝุ่นในรถยนต์ทำความสะอาดเป็นพิเศษ
ในรถยนต์มีหลายส่วนที่ควรให้ความใส่ใจในการทำความสะอาดมากเป็นพิเศษ ดังต่อไปนี้
1.อย่าลืมใช้เครื่องดูดฝุ่นในรถยนต์ ทำความสะอาดช่องรอยต่อของเบาะ
คนส่วนใหญ่มักที่จะมองข้ามการทำความสะอาดบริเวณรอยช่องว่าง รอยต่อระหว่างเบาะที่นั่น ดังนั้น อย่าลืมทำการใช้มือแหวกช่องว่างของรอยต่อออก และใช้เครื่องดูดฝุ่นในรถยนต์ดูดเอาฝุ่น สิ่งสกปรกที่ตกอยู่ภายในออกมาให้มากที่สุด เพื่อให้ทุกส่วนสะอาดหมดจดมากขึ้นกว่าเดิม
2.อย่าลืมใช้เครื่องดูดฝุ่นในรถยนต์ทำความสะอาดพรมและที่วางเท้า
พรมและที่วางเท้า เป็นจุดที่มีการสะสมตัวของสิ่งสกปรกอย่างมาก ดังนั้น การใช้เครื่องดูดฝุ่นในรถยนต์ทำความสะอาดรถยนต์ทุกครั้ง ห้ามพลาดการทำความสะอาดในบริเวณนี้อย่างเด็ดขาด
3.อย่าลืมใช้เครื่องดูดฝุ่นในรถยนต์ ทำความสะอาดใต้เบาะที่นั่ง
เบาะที่นั่ง เป็นสถานที่สะสมตัวของสิ่งสกปรกจำนวนมาก แต่คนทั่วไปมักมองข้ามไปอย่างน่าเสียดาย เนื่องจากเป็นมุมอับของสายตานั่นเอง สำหรับการทำความสะอาดโดยใช้เครื่องดูดฝุ่นในรถยนต์ก็ไม่ยาก เพียงแค่ทำความสะอาดจากทางด้านหลังของเบาะเท่านั้นเอง
บทสรุปส่งท้าย : เครื่องดูดฝุ่นในรถยนต์ดีไหม น่าซื้อมาใช้หรือเปล่า!?
ภายในของรถยนต์... เป็นพื้นที่สำคัญที่จำเป็นจะต้องได้รับการทำความสะอาดอย่างเหมาะสมเป็นประจำ เพราะในแต่ละวันหลายคนต้องอยู่ในรถยนต์เป็นระยะเวลานานหลายชั่วโมง ดังนั้น หากในรถยนต์สะอาดปราศจากฝุ่น สิ่งสกปรก และกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ ก็ย่อมส่งผลดีต่อสุขภาพคนคนที่อยู่ในรถยนต์อย่างมากเลยเช่นกัน