

เปิดตัวเครื่องทำน้ำอุ่นจากแบรนด์ดัง จะรุ่งหรือร่วง?!
หลายๆ คนกำลังหาซื้อเครื่องทำน้ำอุ่นมาใช้ให้สบายตัวที่บ้าน โดยเฉพาะในช่วงที่อากาศบ้านเราเริ่มหนาว หากใครมีเครื่องทำน้ำอุ่นก็จะได้อาบน้ำได้อย่างสบายตัวมากขึ้นอย่างเป็นเท่าตัว โดยสำหรับหลายๆ คน หากเรายังไม่มีความรู้มากพอจะเลือกแบรนด์แปลกๆ ก็คงจะตัดสินใจซื้อจากแบรนด์ดังๆ อย่างเครื่องทำน้ำอุ่น Sharp หรือเครื่องทำน้ำอุ่น Panasonic ซึ่งนั่นก็เป็นเรื่องที่ไม่ผิดแต่อย่างใด เราจึงอยากจะมาแนะนำเครื่องทำน้ำอุ่นจากแบรนด์ดังทั้งหลาย ว่ารุ่นไหนดี รุ่นไหนเด่น ตามมาดูกันเลย!
เครื่องทำน้ำอุ่น SHARP รุ่น WH33
ราคา 1,850 บาท
เริ่มกันที่เครื่องทำน้ำอุ่นราคาย่อมเยา แต่คุณภาพและประสิทธิภาพไม่แพ้ใคร! มาพร้อมกับสัญญาณไฟแสดงการทำงานของฮีตเตอร์ (Power Lamp) และยังผลิตจากคุณวัสดุคุณภาพดีที่ได้รับการรับรองเรื่องความปลอดภัยตามมาตรฐาน ใช้ขดลวดทำความร้อน Incoloy Heater ซึ่งมีคุณสมบัติต่อการทนความร้อนได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังไม่เป็นสนิม ส่วนในเรื่องระบบความปลอดภัย มีปุ่ม ELB Checker สำหรับตัดกระแสไฟฟ้าอัตโนมัติภายใน 0.1 วินาที เมื่อมีกระแสไฟรั่วเพียง 15 มิลลิแอมป์ และระบบควบคุมอุณหภูมิ Auto Thermostat ขณะที่ปุ่มสำหรับปรับอุณหภูมิแบบหมุนนั้นก็ใช้งานง่าย และให้คุณเลือกปรับได้ตามต้องการ 3 ระดับ
สายน้ำ Comfort สายน้ำนุ่มนวล คืนความสดชื่น ตลอดวัน
สายน้ำ JETสายน้ำ อุ่นพลังแรงนวดผ่อนคลายเฉพาะจุด บรรเทาความเมื่อยล้า
สายน้ำ SPRAY สายน้ำอุ่นโปรยปราย กระตุ้นกล้ามเนื้อ กระชับผิวกาย
เครื่องทำน้ำอุ่น Panasonic รุ่น DH-3JL2TH

ภาพจาก ipricethailand.com
ราคา 2,120 บาท
สำหรับสินค้า Panasonic ทุกตัว จุดเด่นคงจะหนีไม่มาตรฐานที่เป็นดั่งบรรทัดฐานของเครื่องใช้ไฟฟ้ายี่ห้ออื่นๆ ในตลาดเลยก็ว่าได้ อีกทั้งยังมีดีไซน์สวย เรียบง่าย กลมกลืนได้กับดีไซน์ห้องน้ำทุกแบบ พร้อมมาตรฐานเรื่องความปลอดภัย ELB Checker ที่ตรวจจับไฟรั่วตลอดเวลา มั่นใจในความปลอดภัยแบบสุดๆ และสุดท้ายสิ่งที่เครื่องทำน้ำอุ่นยี่ห้ออื่นๆ ไม่มี แต่เครื่องทำน้ำอุ่น Panasonic มีคือนอกจากจะสามารถทำน้ำอุ่นได้สบาย ยังมีฟิลเตอร์กรองตะกอนต่างๆ ในน้ำอีกด้วย เรียกว่าสุดยอดสุดๆ ไปเลยครับ!
เครื่องทำน้ำอุ่น Sharp รุ่น WH-235M
ราคา 2,900 บาท
อัพเกรดขึ้นมาหน่อย กับเครื่องทำน้ำอุ่น Sharp ราคาประมาณ 2,000-3,000 บาท ที่ตอบโจทย์สำหรับคนที่ทำงานมาหน่อยๆ ทั้งวัน อยากได้สายน้ำอุ่น อาบสบายๆ มีฝักบัวที่สามารถปรับระดับได้ถึงสามระดับกันเลยทีเดีียวเชียว ให้คุณได้อาบน้ำตามแบบฉบับที่คุณต้องการ อีกทั้งคุณยังสามารถปรับอุณหภูมิของน้ำด้วยปุ่มปรับอุณหภูมิหน้าเครื่องให้คุณได้อุณหภูมิที่เหมาะสม มั่นใจในการอาบน้ำด้วยระบบความปลอดภัยที่ดีเยี่ยมอย่าง ELB CHECKER สามารถควบคุมอุณหภูมสูงสุดไม่เกิน 50 องศา อาบน้ำสบายกายได้อย่างมั่นใจ
เครื่องทำน้ำอุ่น Panasonic รุ่น DH-3NS1TW
ราคา 3,798 บาท
ในระดับราคาที่แพงขึ้นมาหน่อย Panasonic ก็มีของดีนะครับ มาพร้อมฟังก์ชั่นมากมาย เช่น Ag+ Antibacteria Shower Head เพื่อสุขภาพที่สะอาดปลอดภัยด้วยหัวฝักบัวผสมสาร Ag+ ช่วยยับยั้งการเกิดแคทีเรียได้ถึง 99.99% ผลการทดสอบโดยหน่วยงานที่เป็นที่ยอมรับจากทั่วโลก และLuxury Shower Head ผ่อนคลายกับสายน้ำ 3 แบบด้วยปุ่มปรับที่หัวฝักบัว ที่พร้อมควบคุมอุณภูมิให้คงที่ด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์
เครื่องทำน้ำอุ่น Sharp รุ่น WH-247D

ภาพจาก http://www.thaicity.co.th
ราคา 6,180 บาท
ใครคิดว่า Sharp ไม่มีสินค้าระดับพรีเมี่ยม คิดใหม่ได้เลยครับ ในระดับราคาที่สูงขึ้น เครื่องทำน้ำอุ่น Sharp ก็มาพร้อมฟังก์ชั่นที่มากกว่าเดิม เช่นเลือกอุ่นสบายได้ตั้งแต่ 32-48 องศาเซลเซียสLED 7-SEGMENT จอแสดงอุณหภูมิแบบเรืองแสง มองเห็นชัดเจนฝาหลังเครื่องทำจากพลาสติกคุณภาพดี ปลอดภัย และออกแบบเพื่อป้องกันน้ำเข้าเครื่องMEMORABLE DIGI-TEMP ระบบบันทึกอุณหภูมิส่วนตัวที่โปรดปราน อุ่นสบายทุกองศาที่ต้องการETC ควบคุมอุณหภูมิน้ำออกอย่างสม่ำเสมอทุกองศา ด้วยระบบ ETC (ELECTRONIC TEMPERATURE CONTROL) แม้แรงดันน้ำเข้าไม่สม่ำเสมอ
เครื่องทำน้ำอุ่น Panasonic รุ่น DH-4NS2TS
ราคา 5,090 บาท
มาดูรุ่นท็อปๆ ของ Panasonic กันบ้างนะครับ ด้วยดีไซน์สุดทันสมัย มาพร้อมกับชุดสไลด์บาร์ สำหรับการเก็บฝักบัว สะอาดมากขึ้นด้วยฟิลเตอร์กรองน้ำ ช่วยกรองตะกอน ป้องกันการอุดตันกับตัวทำความร้อน ถอดเพื่อทำความสะอาดได้ ควบคุมการทำงานด้วย ปุ่มปรับระดับ เพื่อเปิด ปิด และปรับอุณหภูมิ เพียงปุ่มเดียว ชุดหม้อทำความร้อนฮีตเตอร์ทำจากทองแดง นำความร้อนได้ดี แข็งแรง ทนทาน ใช้งานได้สะดวกและปลอดภัย
สรุปเครื่องทำน้ำอุ่น
ก็จบไปแล้วนะครับ สำหรับการแนะนำเครื่องทำน้ำอุ่น Panasonic และ เครื่องทำน้ำอุ่น Sharp พูดเลยว่าเป็นแบรนด์ดังครอบจักรวาลที่มีคุณภาพไม่แพ้แบรนด์ไหนๆ เลยครับ โดยนี้ไม่ได้เป็นบทความที่สุดท้ายแล้วเราจะบอกว่าแบรนด์ไหนดี แบรนด์ไหนแย่นะครับ เพราะแน่นอนว่าแต่ละแบรนด์ก็มีจุดเด่นจุดด้อยที่แตกต่างกันออกไป ใครชอบแบบไหน ก็ซื้อแบบนั้นครับ!