พัดลมไม่หมุน หมุนช้า แก้ไม่ยาก ลองเปลี่ยนบูชสิ รับรองช่วยได้
พัดลม... เป็นอุปกรณ์ไฟฟ้าที่อาศัยหลักการทำงานของมอเตอร์เพื่อช่วยหมุนแกนหมุน ทำให้ใบพัดเกิดการเคลื่อนที่เป็นวงกลมเพื่อดูดเอาลมที่อยู่ด้านหลังก่อนที่จะทำการเป่าออกไปทางด้านหน้า เพื่อให้ลมเย็นๆกระทบกับร่างกายของผู้ใช้ และทำให้อากาศภายนอกเกิดการเคลื่อนตัวไหลเวียนอย่างสะดวกมากขึ้น ส่งผลให้อุณหภูมิของห้องโดยรวมลดน้อยลงนั่นเอง อย่างไรก็ตาม เมื่อทำการใช้ไปนานๆชิ้นส่วนต่างๆของพัดลมเองก็มักที่จะเสื่อมสภาพมากขึ้นตามไปด้วย โดยเฉพาะ “บูช” ที่เสื่อมสภาพจากการที่ต้องทำหน้าที่รองรับแกนหมุนของใบพัดนั่นเอง จนทำให้เกิดปัญหาพัดลมหมุนช้า หรือหนักเข้าก็คือไม่หมุนเลยขึ้น ดังนั้น การเปลี่ยนบูชใหม่ จึงเป็นหนึ่งในทางแก้ไขปัญหาที่ดีที่จะช่วยทำให้พัดลมยังสามารถทำงานต่อไปได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ โดยไม่จำเป็นที่จะต้องเปลี่ยนเครื่องใหม่อีกด้วย
การแก้ปัญหาพัดลมหมุนช้า หรือไม่หมุนแบบเบื้องต้นโดยไม่ต้องเปลี่ยนบูช
ในบางครั้งปัญหาพัดลมหมุนช้า หรือไม่หมุนเลย อาจสามารถทำการแก้ไขให้กลับมาทำงานได้อย่างเป็นปกติได้โดยไม่ต้องทำการเปลี่ยนบูชแต่อย่างใด โดยมีขั้นตอนพื้นฐานที่ค่อนข้างง่ายดาย ดังต่อไปนี้
ทำความสะอาดแกนใบพัด
บางครั้งเมื่อใช้งานพัดลมไปเป็นเวลานานอาจทำให้เกิดปัญหามีสิ่งสกปรกต่างๆไปเกาะอุดตันที่แกนหมุน จนทำให้การหมุนของใบพัดไม่สะดวก การหมั่นทำความสะอาดแกนใบพัดให้ปราศจากสิ่งสกปรกทำให้ลมกลับมาใช้งานได้อย่างดีมากขึ้น
ฉีดน้ำมันอเนกประสงค์ที่แกนใบพัดช่วยได้
การฉีดน้ำมันอเนกประสงค์เข้าที่แกนใบพัด และเพลาของมอเตอร์ สามารถช่วยลดความเสียดทาน ความฝืด ในการหมุนของพัดลมให้น้อยลงได้เป็นอย่างดี แถมบางทีอาจหมุนเร็วคล่องกว่าเดิมมากขึ้นกว่าเดิมอีกด้วย
“บูช” ที่ต้องเปลี่ยนอยู่ส่วนไหนของพัดลมกันนะ!?
สำหรับคนที่ไม่มีความรู้เกี่ยวกับอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าอาจเกิดความสงสัยว่าแล้วชิ้นส่วนที่เรียกกันว่า “บูช” มันอยู่ที่ส่วนใดของพัดลมกันแน่!? ถ้าให้อธิบายแบบเข้าใจง่ายๆ บูช คือชิ้นส่วนที่มีลักษณะคล้ายกับวงแหวนที่ทำหน้าที่ในการรองแกนหมุนระหว่างมอเตอร์กับใบพัดของพัดลม ถ้าหากบูชเกิดการเสื่อมสภาพ สึก หรือแตก ก็จะทำให้พัดลมหมุนช้า หรือหนักเข้าก็จะไม่หมุนไปเลย ซึ่งในกรณีจำเป็นที่จะต้องทำการเปลี่ยนบูชอันใหม่ เพื่อให้พัดลมสามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพต่อไป
บูช ที่นำมาเปลี่ยนให้กับพัดลมหาได้จากที่ไหน ราคาแพงหรือเปล่า!?
บูช เป็นอะไหล่ที่หาซื้อได้ไม่ยากตามร้านขายอะไหล่พัดลม หรือร้านอุปกรณ์ไฟฟ้าบางแห่งก็มีเช่นกัน โดยมีราคาของบูชอยู่ที่ประมาณ 5-10 บาท ส่วนแผ่นรองล็อกบูชจะอยู่ที่ 8-15 บาท หรือหากมีพัดลมเก่าๆ ก็สามารถทำการถอดนำบูชเหล่านั้นมาใช้ได้เช่นกัน ถ้าหากแผ่นบูชและแผ่นล็อคบูชยังอยู่ในสภาพที่ดี แต่อย่าลืมทำการตรวจสอบรองบูช และแกนหมุนด้วยว่าเสื่อมสภาพแล้วหรือยัง ถ้าหากเสื่อมสภาพแล้วขอแนะนำว่าให้ทำการเปลี่ยนพร้อมกันทีเดียวแบบยกชุดไปเลยจะคุ้มค่ากับการเสียเวลาแกะพัดลมมากกว่า
การเปลี่ยนบูชพัดลมด้วยตัวเอง มีขั้นตอนอย่างไรบ้าง!?
สำหรับการเปลี่ยนบูชของพัดลมด้วยตัวเองไม่ยาก แต่จำเป็นที่จะต้องมีอุปกรณ์อย่างเช่นไขควง 6 แฉก ไขควงปากแบน ค้อน และน้ำมันอเนกประสงค์ เมื่อมีอุปกรณ์ครบแล้วคราวนี้เริ่มขั้นตอนในการถอดพัดลมออกเป็นชิ้นๆ เพื่อทำการเปลี่ยนบูชได้ตามขั้นตอนดังต่อไปนี้
ขั้นตอนที่ 1 : ถอดตะแกรงหน้าและใบพัดออก
ขั้นตอนที่ 2 : ถอดฝาครอบด้านหน้าและด้านหลังออก จะเห็นโครงของมอเตอร์ ให้ทำการขันน็อตยึดเฟืองแกนส่ายที่อยู่ด้านล่างของพัดลมออก
ขั้นตอนที่ 3 : ถอดสลักล็อกใบพัดของพัดลมออก โดยอยู่บริเวณต้นๆของแกนยาวด้านหน้าของพัดลม
ขั้นตอนที่ 4 : ถอดน็อตยึดสาบ และน็อตยึดคาปาซิเตอร์ ที่อยู่ด้านซ้ายของพัดลมออก
ขั้นตอนที่ 5 : ถอดน็อตที่ยึดโครงมอเตอร์ด้านหลังทั้ง 4 จุดออก แล้วถอดฝาครอบด้านหลังออก
ขั้นตอนที่ 6 : ถอดชุดขดลวดมอเตอร์ออกทางด้านหน้า
ขั้นตอนที่ 7 : ถอดแกนพัดลมออกจากขดลวด
ขั้นตอนที่ 8 : ถอดแกนหมุนออกจากบูช โดยบูชจะเป็นส่วนที่สอดแกนหมุนเข้าไปหามอเตอร์ มีลักษณะเป็นเหมือนกับวงแหวน
ขั้นตอนที่ 9 : ตอกแผ่นล็อกบูช และบูชอันเก่าออกจากเบ้า
ขั้นตอนที่ 10 : เปลี่ยนใส่บูชใหม่ลงไป แล้วใช้ไขควงปากแบนค่อยๆกดแผ่นล็อคบูชลงที่ละฝั่ง
ขั้นตอนที่ 11 : บูชจะมีอยู่ทั้งหมด 2 ส่วน คือ ด้านหน้าและด้านหลัง วิธีการเปลี่ยนให้ทำเหมือนกัน
ขั้นตอนที่ 12 : ทำการประกอบพัดลมกลับตามขั้นตอนที่ได้แนะนำไป โดยทำการย้อนกลับ เป็นเสร็จสิ้นการเปลี่ยนบูชให้กับพัดลม