รวมวิธีเลือกแอร์ให้คุ้มค่า ประหยัดไฟ และเหมาะสมกับแต่ละบ้าน
ชอบคุณภาพจาก : https://evolvedmechanical.com

วิธีประหยัดไฟเลือกแอร์แบบไหนถึงจะคุ้มค่า ไปหาคำตอบกัน

การเลือกแอร์เข้าบ้านใครว่าไม่สำคัญ ทุกวันนี้สภาพอากาศบ้านเรานับวันยิ่งร้อนระอุ บางจังหวัดอากาศพุ่งทะลุไปจนถึง 40 องศา เครื่องใช้ไฟฟ้าจำพวกให้ความเย็นจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมากต่อทุกครัวเรือน หนึ่งในนั้นคือแอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้าที่เกือบทุกครัวเรือนต้องมีติดบ้าน แต่ในปัจจุบันมีแอร์หลากหลายแบบ หลากหลายยี่ห้อ หลากหลายราคา หลากหลาย btu ทำให้ยากต่อการตัดสินใจอยู่บ้าง แล้วเราควรเลือกแอร์แบบไหนที่จะคุ้มค่า และเหมาะกับบ้านของเราดีล่ะ?

1. รู้จัก การ คำนวณ BTU

 

000 อ ร์ 9,000 12,000 16,000,18,000 25,000 32,000 btu ราคา กิน ไฟ กี่ แอ ม ป์ กี่ วัตต์

 

British Thermal Unit หรือที่ย่อกันว่า BTU หนึ่งในคำศัพท์ที่คนเลือกซื้อแอร์ทุกคนต้องเป็นอันรู้กัน ซึ่ง BTU คือหน่วยที่ใช้วัดขนาดในการทำความเย็นของแอร์ ยิ่งตัวเลขเยอะยิ่งมีความสามารถในการทำความเย็นได้มากตามไปด้วย ดังนั้นถ้าแอร์เครื่องไหนที่มี BTU เยอะ ก็เท่ากับว่าจะยิ่งมีความสามารถในการสร้างความเย็นได้มาก และทำความเย็นได้ในพื้นที่ขนาดใหญ่ แต่ข้อเสียคือ แอร์เครื่องไหนที่ยิ่งมี BTU เยอะก็จะทำให้แอร์ใช้พลังงานมากขึ้นตามไปด้วย

ดังนั้นในการเลือกซื้อแอร์ อันดับแรกเราจะต้องเลือกซื้อแอร์ให้มีขนาด BTU ที่เหมาะสมกับขนาดของตัวห้องที่ต้องการจะติดตั้ง อย่าเลือกแอร์ที่มี BTU สูงเพียงเพื่อที่จะได้รับความเย็น เพราะหากท่านเลือกแอร์ที่มี BTU ไม่เหมาะสมกับตัวห้องท่านจะได้ไม่คุ้มเสีย อาทิ

  • หากห้องของท่านมีขนาดเล็กแต่เลือกแอร์ที่มี BTU ใหญ่เกินไป จะทำให้เสียเงินซื้อแอร์ในราคาที่แพงเกินความจำเป็น รวมถึงค่าติดตั้งที่แพงขึ้นตามขนาดของเครื่อง ไหนจะค่าไฟที่แพงเพราะต้องใช้กำลังไฟในปริมาณที่มาก
  • หากห้องของท่านมีขนาดใหญ่แต่เลือกแอร์ที่มี BTU เล็กเกินไป จะทำให้แอร์ในห้องมีความเย็นไม่ทั่วถึง เย็นช้า ส่งผลให้เปลืองไฟ แอร์ทำงานหนักอาจะทำให้แอร์พังได้ง่าย

รายละเอียดด้านล่างเป็นรายละเอียดที่แสดงขนาดของ BTU ของแอร์แต่ละขนาด เพื่อที่เราจะได้เลือกซื้อแอร์ที่เหมาะสมกับบ้านของตัวเอง

แอร์ขนาด 9,000 BTU เหมาะสำหรับห้องขนาด 9-12 ตารางเมตร

แอร์ขนาด 12,000 BTU เหมาะสำหรับห้องขนาด 12-15 ตารางเมตร

แอร์ขนาด 16,000 BTU เหมาะสำหรับห้องขนาด 16-20 ตารางเมตร

แอร์ขนาด 18,000 BTU เหมาะสำหรับห้องขนาด 24-30 ตารางเมตร

แอร์ขนาด 25,000 BTU เหมาะสำหรับห้องขนาด 35-44 ตารางเมตร

แอร์ขนาด 32,000 BTU เหมาะสำหรับห้องขนาด 45-56 ตารางเมตร

ส่วนใครที่อยากทราบว่าแอร์แต่ละ BTU นั้นกินไฟกี่แอมป์ กี่วัตต์ ก็สามารถนำเลข BTU ไปคำนวณในอินเตอร์เน็ตเพื่อทราบข้อมูลเพื่อที่จะสามารถคำณวนค่าไฟคร่าวๆ ได้เช่นเดียวกัน

2. แอร์เก่า กินไฟ ต้องเปลี่ยนให้ไว

 

000 อ ร์ 9,000 12,000 16,000,18,000 25,000 32,000 btu ราคา กิน ไฟ กี่ แอ ม ป์ กี่ วัตต์

 

เพราะแอร์รุ่นใหม่นั้นมีความสามารถในการทำความเย็นได้ดี และมีประสิทธิภาพมากกว่าแอร์รุ่นเก่า ทั้งยังกินไฟน้อยกว่า ประหยัดพลังงานมากกว่า รวมถึงมีระบบทำความเย็นต่างๆ ที่เราสามารถเลือกหรือปรับใช้ให้เหมาะกับพื้นที่ใช้สอยได้เป็นอย่างดี

3. เลือกซื้อแอร์ ที่มีฉลาดประหยัดไฟเบอร์ 5

 

000 อ ร์ 9,000 12,000 16,000,18,000 25,000 32,000 btu ราคา กิน ไฟ กี่ แอ ม ป์ กี่ วัตต์

ขอบคุณภาพจาก : https://www.baanlaesuan.com

 

 

โดยแอร์ที่มีฉลากเบอร์ 5 นั้นเป็นแอร์ระดับที่ประหยัดไฟมากที่สุด รวมทั้งแอร์ที่มีค่า EER หรือ SEER สูงโดยค่า EER คือ ค่าประสิทธิภาพแอร์ในการใช้พลังงาน วัดจากความสามารถในการทำความเย็น (BTU/h) ต่อกำลังไฟที่ใช้ไป (W) ยิ่งแอร์มีค่า EER สูงก็ยิ่งกินไฟน้อย ส่วนค่า SEER คือ ค่าประสิทธิภาพการใช้พลังงานตามฤดูกาลของเครื่องปรับอากาศ พูดง่ายๆ ก็คืออากาศภายนอกมีผลต่อประสิทธิภาพการทำงานของแอร์ ซึ่งใช้วัดกับแอร์ระบบอินเวอร์เตอร์ (Inverter) โดยถ้าค่า SEER สูง ก็ยิ่งกินไฟน้อยเช่นกัน

4. ประหยัดไฟด้วย “ระบบอินเวอร์เตอร์” (Inverter)

 

000 อ ร์ 9,000 12,000 16,000,18,000 25,000 32,000 btu ราคา กิน ไฟ กี่ แอ ม ป์ กี่ วัตต์

 

เลือกซื้อแอร์ที่มีระบบ Inverter จะช่วยประหยัดไฟได้จริง ระบบนี้จะเน้นสร้างความเย็นคงที่ อุณหภูมิจะไม่สวิงไปมา จึงเงียบในขณะการใช้งาน เพราะคอมแอร์ในระบบนี้ทำงานต่อเนื่องแบบลดรอบ ซึ่งต่างจากคอมแอร์ธรรมดาที่ทำความเย็นถึงจุดหนึ่งแล้วตัด แล้วก็เริ่มทำความเย็นใหม่นั่นเอง แต่ข้อเสียคือแอร์ที่มีระบบ Inverter จะมีราคาสูงกว่าแอร์ระบบธรรมดาสักหน่อย แต่รับรองว่าคุ้มค่าและประหยัดพลังงานได้มากเลยทีเดียว

5. เลือก คอมเพรสเซอร์ ที่ มี ความ คงทน ต่อ สภาพ อากาศ เมือง ไทย

 

000 อ ร์ 9,000 12,000 16,000,18,000 25,000 32,000 btu ราคา กิน ไฟ กี่ แอ ม ป์ กี่ วัตต์

 

คอมเพรสเซอร์แอร์ เป็นอุปกรณ์ที่ติดตั้งภายนอกบ้าน ต้องเจอกับสภาพอากาศมากมายทั้งความร้อน ความชื้น ดังนั้นการรักษาสภาพของคอมเพรสเซอร์ให้ดีและสมบูรณ์อยู่เสมอ จึงเป็นสิ่งจำเป็นที่จะทำให้ความเย็นของเครื่องปรับอากาศทำงานได้เต็มที่ ก่อนซื้อควรตรวจเช็คคุณภาพอุปกรณ์ที่ใช้ผลิตด้วยว่าอุปกรณ์นั้นมีคุณภาพดีไหม มีการเสื่อมอายุการใช้งานเร็วหรือไม่เพื่อยืดอายุการใช้งานให้ยาวนาน

บทความแนะนำ