เครื่องฟอกอากาศในรถ PM 2.5

เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ที่ช่วยกรองฝุ่น PM 2.5
ที่น่าสนใจ ไม่ควรพลาด มีอะไรบ้าง!?

เครื่องฟอกอากาศในรถ PM 2.5

 

หากกล่าวถึง “เครื่องฟอกอากาศ...” เชื่อว่าคนส่วนใหญ่คงคิดไปถึงเครื่องใช้ไฟฟ้ารูปร่างคล้ายแอร์ตั้งพื้นที่อยู่ตามมุมต่างๆของห้อง ที่ทำหน้าที่ในการช่วยฟอกอากาศให้มีความสะอาดสดชื่นมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม แต่ในปัจจุบันการกรองอากาศเพียงแค่ในบ้าน อาจไม่เพียงพอในการจัดการกับปัญหาฝุ่นละอองหรือมลภาวะที่เกิดขึ้นนอกบ้าน โดยเฉพาะในรถยนต์ที่ต้องอยู่บนท้องถนนเผชิญมลภาวะในขณะที่รถติดเป็นระยะเวลานานๆ ทำให้เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ที่จัดการกับปัญหาผมลภาวtเหล่านี้ และรับมือกับฝุ่น PM 2.5 ได้จึงเป็นสิ่งที่มีความจำเป็นอย่างมากเลยทีเดียว ถ้าหากใครกำลังมองหาเครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ ที่จัดการกับฝุ่น PM 2.5 อย่างได้ผล ขอแนะนำเครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ ที่ได้รับการรีวิวแล้วว่ามีประสิทธิภาพที่น่าสนใจอย่างมาก ส่วนจะมีเครื่องฟอกอากาศแบรนด์ไหน รุ่นใดกันบ้างนั้น ไปติดตามอ่านได้จากบทความชิ้นนี้กันได้เลย
เลือกเครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ กรองฝุ่น PM 2.5 อย่างไรให้โดนใจ?

เครื่องฟอกอากาศในรถ PM 2.5

 

ในปัจจุบันเครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ ที่สามารถทำการกรองฝุ่น PM 2.5 ก็มีให้เลือกกันหลายยี่ห้อ และแต่ละแบรนด์ก็มีคุณสมบัติที่น่าสนใจแตกต่างกันออกไปพอสมควร แต่มีหลักการบางประการที่ค่อนข้างคล้ายกันจนสามารถนำมาใช้เป็นเกณฑ์ในการเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ที่มีประสิทธิภาพ และดีต่อสุขภาพของคุณได้มากยิ่งขึ้น ดังต่อไปนี้

1.เลือกเครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ ที่มีค่า CADR สูง

ค่า CARR เป็นค่ามาตรฐานที่ใช้ในการวัดอากาศบริสุทธิ์หลังจากที่ทำการฟอกอากาศเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หากเครื่องฟอกอากาศมีค่านี้สูง ย่อมหมายความว่ามีประสิทธิภาพในการช่วยฟอกอากาศได้เป็นอย่างมากเลยทีเดียว

2.เลือกเครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ ที่ช่วยกรองฝุ่นที่มีขนาดเล็กที่สุด

หลายคนเข้าใจผิดว่าหากต้องการเครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ ที่สามารถกรองฝุ่น PM 2.5 ได้ ก็จำเป็นที่จะต้องเลือกที่เขียนระบุเอาไว้ว่า สามารถกรองฝุ่น PM 2.5 ได้เท่านั้น แต่ที่จริงแล้วหากทำการเลือกเครื่องฟอกอากาศที่สามารถกรองฝุ่นที่มีขนาดเล็กกว่าอย่างเช่น 0.1 ไมครอน ที่มีขนาดเล็กกว่า ย่อมสามารถทำการกรองฝุ่น PM 2.5 ได้ด้วย ดังนั้นการเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ควรเลือกคุณสมบัติในการกรองอากาศได้อย่างครบถ้วนจะเป็นสิ่งที่คุ้มค่ากว่านั่นเอง

เครื่องฟอกอากาศในรถ PM 2.5

 

3.เลือกเครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ ขนาดกะทัดรัด

เนื่องจากภายในของรถยนต์มีพื้นที่ที่จำกัด ดังนั้น การเลือกเครื่องฟอกอากาศจึงต้องให้ความใส่ใจในเรื่องของขนาด น้ำหนัก เป็นอย่างมากเพราะไม่อย่างนั้นอาจทำให้เกะกะในการใช้งานมากขึ้น

4.เลือกเครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ ที่ช่วยในการดับกลิ่น

ภายในรถยนต์เป็นพื้นที่ปิดที่อากาศไม่ค่อยได้รับการถ่ายเทระบายเหมือนกับในห้องพัก ในบ้าน หรือคอนโด ทำให้มักมีกลิ่นอับเกิดขึ้น ยิ่งคนที่ทำการสูบบุหรี่ในขณะที่ทำการขับรถก็ยิ่งทำให้ปัญหาเรื่องกลิ่นภายในรถหนักมากขึ้น เป็นการทำร้ายคนที่รักที่โดยสารร่วมทางโดยไม่ทันรู้ตัว ดังนั้น การเลือกเครื่องฟอกอากาศที่ช่วยจัดการปัญหาเหล่านี้ได้ จะช่วยทำให้อากาศในรถยนต์สะอาด น่านั่งมากยิ่งขึ้นอย่างแน่นอน
แนะนำเครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ กรองฝุ่น PM 2.5 สุขภาพดี สดใส กว่าเดิม!

เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ กรองฝุ่น PM 2.5 : SHARP รุ่น IG-DC2B-N

เครื่องฟอกอากาศในรถ PM 2.5

 

เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ กรองฝุ่น PM 2.5 ขนาดเล็กกะทัดรัด น้ำหนักเบา ที่เหมาะอย่างมากในการติดตั้งเอาไว้ภายในรถขนาด 3.6 ตรม. เพื่อรับมือกับปัญหามลภาวะ และยังช่วยในการทำลายเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ เชื้อโรค ด้วยระบบพลาสม่าคลัสเตอร์แบบเข้มข้นที่มีเฉพาะในเครื่องฟอกอากาศของ SHARP ในการปล่อยประจุไฟฟ้าแบบบวกและลบเข้าไปทำลายผนังเซลล์ของเชื้อรา เชื้อไวรัส และเชื้อแบคทีเรียในอากาศ ทำให้อากาศมีความสะอาดมากขึ้น ซึ่งวิธีการทำงานดังกล่าวได้รับการพิสูจน์ประสิทธิภาพโดยสถาบันวิจัยนานาชาติ 26 แห่ง และสถาบันทางการแพทย์ในประเทศไทยอีก 2 แห่ง เลยทีเดียว

เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ กรองฝุ่น PM 2.5 : BWELL รุ่น G6

เครื่องฟอกอากาศในรถ PM 2.5

เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ ในราคาที่สุดแสนประหยัด แถมคุณภาพครบเครื่องครบครัน ด้วยเทคโนโลยีอันทันสมัย ที่ช่วยกรองอากาศภายในรถยนต์ที่ได้รับให้มีความบริสุทธิ์ ช่วยให้ทุกคนในครอบครัวของคุณมีสุขภาพที่ดีมากยิ่งขึ้น ผ่านระบบการกรองอากาศมากถึง 3 ขั้นตอน แบบครบวงจรทั้ง กรองฝุ่น ดูดกลิ่นและฆ่าเชื้อโรค นอกจากนี้ยังมีระบบ “สลายควันบุหรี่” อีกด้วย และแน่นอนว่าเครื่องฟอกอากาศชิ้นนี้ ยังช่วยจัดการกับปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 ที่คอยกวนใจคุณได้อย่างยอดเยี่ยมเลยทีเดียว...

เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ที่สามารถช่วยกรองฝุ่น PM 2.5 ที่ได้แนะนำไปแล้วเหล่านี้ จะช่วยให้คุณสามารถใช้ชีวิตบนท้องถนนในแต่ละวันได้อย่างสะดวกสบาย ราบรื่นมากยิ่งขึ้นกว่าเดิมโดยปราศจากความกังวลได้เป็นอย่างดี ไม่เชื่อลองซื้อมาติดตั้งเอาไว้ในรถยนต์รับรองว่าไม่นานจะเห็นผลลัพธ์ของความแตกต่างที่เกิดขึ้นได้อย่างแน่นอน...

บทความแนะนำ