ตู้เย็นมินิบาร์มือสอง ยี่ห้อไหนคุณภาพดี บทความนี้มีคำตอบ
ตู้เย็นมินิบาร์มือสอง.. เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่มีความน่าสนใจอย่างมาก สำหรับคนที่มีงบน้อยแล้วกำลังจะทำการย้ายที่พักไปอยู่ในสถานที่ที่มีพื้นที่จำกัด เช่น ในหอพัก หรือห้องเช่า แล้วไม่อยากซื้อตู้เย็นที่มีขนาดใหญ่นักเพื่อเป็นการประหยัดพื้นที่ให้มากที่สุดนั่นเอง ถ้าหากใครกำลังให้ความสนใจอยากเลือกซื้อตู้เย็นมินิบาร์มือสองด้วยตัวเอง ขอแนะนำให้ลองทำตามคำแนะนำในการเลือกซื้ออย่างเหมาะสมผ่านบทความชิ้นนี้ รับรองว่าจะช่วยให้คุณเลือกซื้อตู้เย็นมินิบาร์มือสองได้อย่างมีประสิทธิภาพ คุ้มค่า ในราคาแสนประหยัดอย่างแน่นอน...
ตู้เย็นมินิบาร์มือสอง ในปัจจุบันราคาประมาณเท่าไหร่กัน!?
สิ่งแรกที่คนอยากเป็นเจ้าของตู้เย็นมินิบาร์มือสองควรทราบคือ “ราคา” โดยประมาณ ณ ปัจจุบันของตู้เย็นมินิบาร์มือสองเพื่อนำมาเป็นข้อมูลในการประกอบการตัดสินใจเลือกซื้อ โดยจากการอ้างอิงราคาจากเว็บไซต์ซื้อขายของมือสองยอดนิยมอย่าง Kaidee.com ณ เดือนพฤศจิกายน 2019 พบว่าราคาการซื้อขายของตู้เย็นมินิบาร์มือสอง มีดังต่อไปนี้
- ตู้เย็นมินิบาร์มือสอง ขนาด 1.7 คิว อยู่ที่ประมาณ 2,000 – 2,800 บาท
- ตู้เย็นมินิบาร์มือสอง ขนาด 1.9 คิว อยู่ที่ประมาณ 2,000 – 2,400 บาท
- ตู้เย็นมินิบาร์มือสอง แบบพกพาในรถยนต์ อยู่ที่ประมาณ 400 – 1,700 บาท
การเลือกซื้อตู้เย็นมินิบาร์มือสอง ให้ได้ของดีโดนใจ ฉบับปี 2019
1.เลือกซื้อตู้เย็นมินิบาร์มือสองให้มีความจุเหมาะกับพฤติกรรมการใช้
ตู้เย็นมินิบาร์มือสอง เหมาะกับการแช่อาหารเล็กน้อย และเครื่องดื่ม เป็นหลัก ดังนั้น ถ้าหากใครทำอาหารบ่อยๆ หรือซื้อของมาแช่เย็นเป็นจำนวนมาก การเลือกซื้อตู้เย็นขนาดใหญ่มากขึ้นอาจเป็นทางเลือกที่ดีมากกว่า
2.เลือกตู้เย็นมินิบาร์มือสอง ที่ติดฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5
ตู้เย็นมินิบาร์มือสอง นอกจากในเรื่องของราคาแล้ว ยังควรให้ความสำคัญกับการประหยัดไฟเบอร์ 5 ด้วย เพื่อให้รายจ่ายค่าไฟฟ้าในแต่ละเดือนลดน้อยลงนั่นเอง
3.เลือกตู้เย็นมินิบาร์มือสองโดยอิงจากขนาดของความจุ
โดยพื้นฐานแล้วตู้เย็นมินิบาร์มือสอง มักจะมีความจุตั้งแต่ 20 – 50 ลิตร ทำให้อาจไม่เพียงพอกับครอบครัวที่มีสมาชิกหลายคนสักเท่าใดนัก ดังนั้น ถ้าหากใครคิดที่จะเลือกซื้อตู้เย็นมินิบาร์มือสองมาใช้ก็ต้องทำใจก่อนว่าตู้เย็นประเภทนี้ เหมาะกับคนที่ทำการอาศัยอยู่เพียงคนเดียวเท่านั้น
4.เลือกตู้เย็นมินิบาร์มือสองจากฟังก์ชันการใช้งานเสริม
ตู้เย็นมินิบาร์มือสองแต่ละแบรนด์จะมีฟังก์ชันเสริม ที่สร้างความโดดเด่นให้กับการใช้งานที่ไม่เหมือนกัน เช่น ระบบการทำความเย็นคู่ ระบบฆ่าเชื้ออาหาร ระบบกำจัดกลิ่นมาพึงประสงค์ เป็นต้น ดังนั้น การเลือกฟังก์ชันเสริมที่เหมาะกับตัวเอง จึงเป็นสิ่งที่มีความสำคัญอย่างมากเลยทีเดียว
5.เลือกตู้เย็นมินิบาร์มือสองจากการรับประกันสินค้าจากผู้ขาย
ตู้เย็นมินิบาร์มือสอง เป็นอุปกรณ์ที่ผ่านการใช้งานมาก่อน ทำให้จำเป็นอย่างมากที่ต้องได้รับการรับประกันจากผู้ขายอย่างน้อย 1 เดือน เพื่อเป็นการแสดงความรับผิดชอบ และความจริงใจว่าตู้เย็นมินิบาร์มือสองที่ซื้อมานั้น ยังมีคุณภาพที่ดีอยู่นั่นเอง
เคล็ดลับในการใช้ตู้เย็นมินิบาร์มือสอง ให้ประหยัดพลังงานมากขึ้นกว่าเดิม
1.ติดตั้งตู้เย็นมินิบาร์มือสองในพื้นที่เหมาะสม ไม่ร้อนจัด สัมผัสแดดโดยตรง และมีความชื้นสูง
2.แช่ของในตู้เย็นมินิบาร์มือสองให้เต็ม จะช่วยประหยัดพลังงานมากกว่าตู้เย็นที่ช่องแช่ว่างเปล่า
3.ทำความสะอาดตู้เย็นมินิบาร์มือสองอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะฝุ่นด้านบน และด้านข้าง เพื่อให้ตู้เย็นระบายความร้อนได้อย่างเหมาะสมมากขึ้น
4.ตรวจสอบและหมั่นทำความสะอาดขอบยางอยู่เสมอ หากขอบยางเสื่อมสภาพจะทำให้ตู้เย็นปิดไม่สนิท และทำให้จำเป็นต้องใช้พลังงานมากขึ้น
5.เก็บรักษาอาหารที่มีความชื้นในกล่องก่อนใส่ในตู้เย็น จะช่วยลดการทำงานของคอมเพรชเซอร์ให้น้อยลง
6.ละลายน้ำแข็งอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ตู้เย็นไม่ทำงานหนักมากจนเกินไป
7.รอเวลาให้อาหารร้อนเย็นก่อนนำเข้าไปเก็บในตู้เย็น เพื่อไม่ให้ตู้เย็นทำงานหนักจนเกินไป
8.ปรับความเย็นของตู้เย็นมินิบาร์มือสองให้เหมาะสม โดยช่องแช่เย็นประมาณ 3-5 องศา และช่องแช่แข็งประมาณ -10 ถึง -15 องศา เป็นต้น
9.จัดระเบียบสิ่งของในตู้เย็นมินิบาร์มือสอง เพื่อให้สามารถหยิบได้ง่าย
10.จัดสิ่งของไม่ให้อุดตันทิศทางลม เพื่อลมเย็นทำความเย็นได้อย่างทั่วถึงมากขึ้น
6 ตู้เย็นมินิบาร์มือสอง ที่ได้รับความนิยมซื้อ-ขาย ผ่านระบบออนไลน์ ในปี 2019
สำหรับตู้เย็นมินิบาร์มือสอง ที่ได้รับความนิยม นำมาซื้อขายต่อกันในปี 2019 นั้น มีหลายยี่ห้อ หลายรุ่น ดังรายการแนะนำดังต่อไปนี้ โดยราคาที่นำมาเสนอนี้เป็นราคาแบบมือหนึ่ง ที่ไม่ได้แตกต่างจากมือสองสักเท่าใดนัก
1.ตู้เย็น 1.7 คิว ยี่ห้อ ACONATIC : รุ่น AN-FR468
ราคา | 3,290 บาท (ราคามือหนึ่ง) |
ความจุ | 1.7 คิว |
ขนาด | 49.0x47.0x51.0 ซม. |
การรับประกัน | 1 ปี |
ตู้เย็นมินิบาร์ ที่มีระบบการไหลเวียนอากาศแบบ AIR FLOW มีระบบการทำน้ำแข็งโดยอัตโนมัติ ช่วยรักษาความเย็นของผัก ผลไม้ รวมไปถึงเครื่องดื่มที่แสนโปรดปรานได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ยังการันตีการประหยัดไฟ ด้วยฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 อีกด้วย
2.ตู้เย็น 1.7 คิว ยี่ห้อ TOSHIBA : รุ่น GR-A706CQST
ราคา | 4,590 บาท (ราคามือหนึ่ง) |
ความจุ | 1.7 คิว |
ขนาด | 47.5x49.50x50.0 ซม. |
การรับประกัน | 1 ปี |
ตู้เย็นมินิบาร์ ขนาดเล็กที่มีระบบในการกระจายความเย็นได้โดยอัตโนมัติ ประหยัดไฟเบอร์ 5 มาพร้อมกับความสะดวกสบายในการเปิดปิดด้วยมือจับแบบฝัง และหลอดไฟภายในเพื่อช่วยให้เห็นถึงความสว่างได้เป็นอย่างดี
3.ตู้เย็น 1.7 คิว ยี่ห้อ HITACHI : รุ่น R-20NP
ราคา | 4,590 บาท (ราคามือหนึ่ง) |
ความจุ | 1.7 คิว |
ขนาด | - |
การรับประกัน | 1 ปี |
ตู้เย็นขนาด 1.7 ลิตร ความจุภายในขนาด 49 ลิตร มาพร้อมกับการออกแบบที่ดูเล็ก กะทัดรัด เหมาะอย่างมากในการนำมาใช้เพื่อแช่เครื่องดื่ม ขอบยางทำการเคลือบแบบพิเศษ ช่วยป้องกันเชื้อราได้อย่างยาวนาน ประตูทำจากสี PCM เคลือบพิเศษ ทำให้ยังคงความสวยงามหลังใช้ได้อย่างยาวนานมากขึ้นกว่าเดิม
4.ตู้เย็น 1.7 คิว ยี่ห้อ SHARP : รุ่น SJ-MB50
ราคา | 3,453 บาท (ราคามือหนึ่ง) |
ความจุ | 1.7 คิว |
ขนาด | - |
การรับประกัน | 1 ปี |
ตู้เย็นขนาดเล็ก กะทัดรัด ดีไซต์สวยงามทำให้เหมาะกับการนำไปจัดวางไว้ได้กับทุกห้องทุกสไตล์ บนประตูข้างนอกสวยงาม มีด้ามจับแบบฝัง ช่องวางของภายในสามารถทำการอดได้ นอกจกานี้ยังได้รับการรับรองการประหยัดไฟจากฉลากเบอร์ 5 อีกด้วย
5.ตู้เย็น 1.7 คิว ยี่ห้อ HITACHI : รุ่น R-20NP-PBK
ราคา | 4,990 บาท (ราคามือหนึ่ง) |
ความจุ | 1.7 คิว |
ขนาด | - |
การรับประกัน | 1 ปี |
ตู้เย็นแบบประตูเดียว ขนาด 1.7 คิว ความจุ 49 ลิตร ที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้เหมาะกับแช่เครื่องดื่มให้เย็นสดชื่นอยู่เสมอ ขอบยางประตูภายนอกเคลือบป้องกันเชื้อราด้วยสารป้องกันพิเศษ นอกจากนี้ยังรับประกันความทนทานของคอมเพรสเซอร์อย่างยาวนานถึง 5 ปี เลยทีเดียว
6.ตู้เย็น 1 คิว ยี่ห้อ HOMESUN : รุ่น BCG-30CB
ราคา | 4,095 บาท (ราคามือหนึ่ง) |
ความจุ | 1 คิว |
ขนาด | 38x44x46.5 ซม. |
การรับประกัน | 3 ปี |
ตู้เย็นมินิบาร์ขนาดเล็กพิเศษ ความจุ 30 ลิตร ที่มีอุณหภูมิ 5-8 องศา ไม่คอมเพรสเซอร์ ทำให้ไม่มีเสียงรบกวนในขณะทำงานกวนใจอีกต่อไป เหมาะสำหรับการนำไปใช้ในห้องนอน และโรงแรม นอกจากนี้ยังมีระบบละลายน้ำแข็งแบบอัตโนมัติในตัว ทำให้ไม่ต้องเทน้ำทิ้งบ่อย หรือกังวลกับปัญหาน้ำล้นอีกต่อไป