อยากเลือกซื้อของแต่งบ้านมือสองอย่างโปร บทความนี้มีคำตอบ!!!
เมื่อเป็นเจ้าของบ้านสักหลัง... ห้องพักหรือคอนโด หนึ่งในสิ่งที่สร้างความสุขให้เป็นอย่างมากก็คงจะไม่พ้นการมองหา “ของตกแต่งบ้าน” มาช่วยเสริมตรงนั้นนิด ตรงนี้อีกหน่อยให้บรรยากาศของบ้านมีความสวยงามเข้ากับสไตล์ของตัวเองให้มากขึ้น แต่ถ้าหากใครเป็นคนที่ชอบการแต่งบ้านในสไตล์วินเทจ หรือแบบคลาสสิก แล้วอยากได้บรรยากาศแบบย้อนยุคจริงๆ เชื่อว่าการซื้อเฟอร์นิเจอร์และของแต่งบ้านมือสองคงเป็นหนึ่งในทางเลือกที่น่าสนใจอย่างมากเลยทีเดียว แต่ก่อนที่จะทำการตัดสินใจซื้อของแต่งบ้านมือสอง อยากแนะนำวิธีการเลือกซื้อของแต่งบ้านมือสองให้ได้ของดี ในราคาประหยัด แถมคุ้มค่ากับทุกสตางค์ที่เสียไปจากบทความชิ้นนี้กันได้เลย
7 เคล็ดลับในการเลือกซื้อของแต่งบ้านมือสองแบบมือโปร!
1.กำหนดงบในกระเป๋าก่อนเดินทางไปเลือกซื้อของแต่งบ้านมือสอง
สิ่งแรกที่ควรให้ความสำคัญอย่างมากคือการ “ตั้งงบ” ในการเลือกซื้อของแต่งบ้านมือสองกันก่อน เพราะนอกจากที่จะป้องกันไม่ให้เกิดงบประมาณที่บานปลายแล้ว ยังช่วยให้คำนวณค่าใช้จ่ายทั้งหมดในการตกแต่งบ้านได้อย่างคร่าวๆอีกด้วย
2.ราคาของแต่งบ้านมือสองมาน้อยเพียงใด ถึงจะถือว่าคุ้มค่า!?
ก่อนเดินทางไปซื้อของแต่งบ้านมือสองควรทำการเปิดเว็บไซต์ และหมายตาเอาไว้ก่อนว่าจะซื้อของชิ้นใดบ้าง จากนั้นให้ทำการสำรวจราคาของประดับตกแต่งบ้านเสียก่อนว่ามือหนึ่ง ณ ขณะนั้น มีราคาเท่าไหร่ ซึ่งราคาของสินค้ามือสองควรจะถูกกว่าราคาเต็ม 30-50% ยกเว้นเฟอร์นิเจอร์ และเครื่องเรือนบ้างประเภทที่ยิ่งเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ ราคาก็จะยิ่งสูงมากขึ้น
3.ก่อนตัดสินใจซื้อของแต่งบ้านมือสอง คิดให้ถี่ถ้วนก่อนว่าจำเป็นจริงหรือเปล่า!?
เฟอร์นิเจอร์และของแต่งบ้านมือสองบางชิ้นอาจมีความสวยงามจนยากที่จะห้ามใจ แต่อยากที่จะให้ลองคิดถี่ถ้วนก่อนว่าหากซื้อของแต่งบ้านมือสองเหล่านั้นได้ใช้ประโยชน์ หรือเหมาะสมกับสไตล์การแต่งบ้านของตัวเองจริงหรือเปล่า!? อย่าปล่อยให้ความอยากเข้าครอบงำ เพราะไม่อย่างนั้นอาจต้องมาเสียใจกับเสียเงินไปอย่างเปล่าประโยชน์จำนวนมากในภายหลัง
4.อย่าลืมต่อรองราคาในการซื้อของแต่งบ้านมือสอง
การต่อรองราคา เป็นการช่วยประหยัดเงินในกระเป๋าได้เป็นอย่างดี อย่างไรก็ตามเพื่อไม่ให้เป็นการเอาเปรียบคนขาย และทำลายมิตรภาพระหว่างกัน ขอแนะนำให้ต่อรองราคาเพียง 5-10% ของราคาวางขายเท่านั้น
5.อย่าลืมทดสอบคุณภาพของแต่งบ้านมือสองก่อนซื้อ
ก่อนตัดสินใจซื้ออย่าลืมตรวจสอบสภาพ คุณภาพ หรือทดลองใช้งานก่อน แต่ถ้าหากเป็นการสั่งซื้อผ่านทางออนไลน์ ควรขอตรวจสอบรูปถ่ายของสินค้าในทุกซอกทุกมุมให้ดีเสียก่อน เพื่อที่จะได้ทราบความชำรุดหรือเสื่อมสภาพ เพราะในบางส่วนนั้นสามารถที่จะทำการซ่อมแซมด้วยตัวเอง หรือให้ช่างผู้เชี่ยวชาญทำการแก้ไข เพื่อให้กลับมาใช้งานได้ในราคาประหยัดมากกว่าการซื้อใหม่ได้เช่นกัน
6.ตรวจสอบรีวิวและประสบการณ์ซื้อของแต่งบ้านมือสองจากร้านค้าที่สนใจ
เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้ถูกหลอก และได้รับบริการหลังการขายที่ดี เป็นกันเองจากร้านค้าที่ได้คุณภาพ ขอแนะนำให้ลองทำการตรวจสอบข้อมูลรีวิว รวมไปถึงประสบการณ์จากคนที่เคยไปใช้บริการร้านค้ามือสองที่กำลังให้ความสนใจเสียก่อนว่ามีแนวโน้มไปในทิศทางที่ดี หรือแย่? เพื่อประกอบการตัดสินใจว่าควรไปใช้บริการหรือเปล่า!
7.ตรวจสอบวิธีการรักษาของแต่งบ้านมือสองอย่างเหมาะสมก่อนซื้อ
วิธีในการดูแลรักษาเฟอร์นิเจอร์ และของแต่งบ้านมือสองมีความแตกต่างกัน นอกจากนี้ยังมีความยาก-ง่าย ที่ไม่เหมือนกันอีกด้วย ดังนั้น ก่อนทำการตัดสินใจซื้อของแต่งบ้านมือสองสักชิ้น ควรทำการศึกษาให้ดีก่อนว่าควรดูแลรักษาอย่างไร? สามารถทำได้ด้วยตัวเองหรือไม่!? เพราะถ้าหากซื้อของแต่งบ้านมือสองมา แต่มีค่าบำรุงรักษาที่แพงมาก ก็อาจทำให้ไม่คุ้มค่ากับสิ่งที่ต้องจ่ายไปเช่นกัน
