ประวัติศาสตร์น่ารู้! คอมพิวเตอร์ 5 ยุค
ในยุคสมัยแห่งโลกาภิวัฒน์นี้ เทคโนโลยีได้พัฒนามาอย่างยาวนานและก้าวกระโดด ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์อิเล็คโทรนิคส์ Gadget ต่าง ๆ หรือแม้กระทั่งสิ่งที่ทุกคนคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีเช่นคอมพิวเตอร์เองก็มีประวัติศาสตร์การพัฒนานมาอย่างยาวนานเช่นกัน นับตั้งแต่คอมพิวเตอร์ถูกประดิษย์ขึ้นครั้งแรกในช่วงปี 1940 จนกระทั่งปัจจุบันก็นับเป็นระยะเวลาหลายทศวรรษแล้ว ซึ่งประวัติศาสตร์ยุคสมัยของคอมพิวเตอร์สามารถแบ่งออกได้เป็น 5 ยุคด้วยกัน ส่วนแต่ละยุคจะมีอะไรที่น่าสนใจกันบ้าง มาติดตามอ่านสรุปแบบเข้าใจแสนง่ายจากบทความชิ้นนี้กันได้เลย..
1940-1956: คอมพิวเตอร์ยุคที่ 1 – หลอดสุญญากาศ (Vacuum Tubes)
คอมพิวเตอร์เครื่องเล็กรูปร่างสี่เหลี่ยมที่เราคุ้นหน้าคุ้นตากันในสมัยนี้ ในยุคแรก ๆ กลับเป็นเครื่องสี่เหลี่ยมขนาดสูงยิ่งกว่าตัวคนที่กินพื้นที่เกือบทั้งห้อง ตัวเครื่องมีขนาดกว้าง 2.4 เมตรและยาวถึง 15.2 เมตร โดยมีหลอดสุญญากาศจำนวนมากเป็นหัวใจสำคัญของวงจรอิเล็คทรอนิกส์ในเครื่อง เพราะฉะนั้นการใช้งานคอมพิวเตอร์สมัยนั้นจะต้องใช้พลังงานไฟฟ้าเป็นจำนวนมาก สิ่งที่ตามมาอย่างเลี่ยงไม่ได้คืออุณหภูมิที่สูงมาก ๆ ของเครื่อง ด้วยเหตุนี้เครื่องคอมพิวเตอร์ในยุคแรกจึงจำเป็นต้องตั้งไว้ในห้องปรับอากาศตลอดเวลา คอมพิวเตอร์ในยุคนี้ประมวลผลโดยใช้เทปแม่เหล็ก มีหน่วยความจำเป็นบัตรเจาะรูและดรัมแม่เหล็ก สั่งการเครื่องด้วยภาษาในระบบตัวเลขฐานสอง เครื่องคอมพิวเตอร์อันเป็นที่รู้จักในยุคนี้คือ UNIVAC เป็นคอมพิวเตอร์เครื่องแรกที่ถูกซื้อไปใช้งานโดยบริษัทพาณิชย์และ ENIAC
1956 – 1963: คอมพิวเตอร์ยุคที่ 2 – ทรานซิสเตอร์ (Transistor)
วงจรทรานซิสเตอร์ทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์มีขนาดเล็กลง ราคาถูกลง ใช้ไฟฟ้าน้อยลงกว่าในยุคแรกส่งผลให้ความร้อนจากเครื่องก็ลดลงไปด้วย ถึงแม้ขนาดจะเล็กลงและใช้พลังงานน้อยลงกว่าเดิมแต่ประสิทธิภาพในการประมวลผลกลับสวนทางกัน เพราสามารถประมวลผลได้เร็วกว่า ถูกต้องแม่นยำกว่า แถมราคาก็ถูกลงด้วย คอมพิวเตอร์ยุคนี้มีแกนเฟอร์ไรท์เป็นหน่วยความจำ ภาษาในการสั่งการก็มีการพัฒนาสูงขึ้นจากเลขฐานสองกลายเป็นภาษาที่มนุษย์สามารถอ่านและเข้าใจได้ เช่น ภาษาโคบอล หรือ เฟอร์เทน ซึ่งเป็นภาษาสั่งการคอมพิวเตอร์ที่ใช้งานมาได้จนถึงปัจจุบัน คอมพิวเตอร์ในยุคนี้เป็นคอมพิวเตอร์รุ่นแรกที่มีการเก็บข้อมูลสำรองในรูปแบบของสื่อบันทึกแม่เหล็กอีกด้วย
1964 – 1971: คอมพิวเตอร์ยุคที่ 3 – วงจรรวม (Integrated Circuits)
ในยุคนี้วงจรทรานซิสเตอร์ได้ถูกพัฒนาจนกลายมาเป็นซิลิคอนชิพ (silicon chips) ที่มีขนาดเล็กลงมาก ๆ แต่กลับทำให้ความเร็วและประสิทธิภาพในการประมวลผลเพิ่มสูงขึ้น คอมพิวเตอร์ยุคนี้เป็นยุคแรกที่มีการแสดงผลผ่านทางหน้าจอและผู้ใช้สามารถสั่งการซอฟต์แวร์ต่าง ๆ ผ่านคีย์บอร์ดได้ ทำให้สามารถใช้ทำงานได้หลายอย่างในเวลาเดียวกัน เพราการพัฒนาอย่างก้าวกระโดดนี้ทำให้คอมพิวเตอร์มีขนาดเล็กลงอย่างมาก และราคาก็ถูกลงด้วย คอมพิวเตอร์จึงเริ่มมีการใช้งานที่แพร่หลายในองค์กรต่าง ๆ มากขึ้นในช่วงยุค 60s
1972 – 2010: คอมพิวเตอร์ยุคที่ 4 – ไมโครโพรเซสเซอร์ (Microprocessors)
วงจรอิเล็กทรอนิกส์ในคอมพิวเตอร์ยังคงพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยวงจรอิเล็กทรอนิกส์ในยุคที่ 4 ของคอมพิวเตอร์ในยุคนี้มีชื่อเรียกว่า VLSI (Very Large Scale Integrated circuit) ซึ่งเป็นวงจรรวมที่นำเอาวงจรทรานซิสเตอร์จำนวนมหาศาลมาย่อรวมกันบนแผ่นซิลิคอนขนาดเล็ก จากแผงวงจรที่มีขนาดใหญ่เท่าห้องหนึ่งห้อง ตอนนี้กลับมีขนาดเล็กเท่าฝ่ามือ แต่ขีดความสามารถของคอมพิวเตอร์กลับพัฒนาสูงขึ้นเรื่อย ๆ นอกจากนี้ยังมีคอมพิวเตอร์ที่ออกแบบมาสำหรับผู้ใช้ทั่วไปเปิดตัวครั้งแรกในปี 1981 และต่อมาในปี 1984 บริษัท Apple ที่เรารู้จักกันดีได้เปิดตัวคอมพิวเตอร์ MacIntosh ขึ้นเป็นครั้งแรก ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีในยุคนี้นำมาซึ่งการพัฒนาครั้งใหญ่ของระบบกราฟฟิก อินเตอร์เน็ต แล็บท็อป และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ
2011 - ปัจจุบัน: คอมพิวเตอร์ยุคที่ 5 – ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence: AI)
คอมพิวเตอร์ในยุคเป็นเทคโนโลยีที่พยายามจำลองความสามารถของสมองมนุษย์ โดยซอฟต์แวร์จะมีการเก็บรวบรวมข้อมูลต่าง ๆ มาเก็บไว้ในฐานข้อมูล มีการประมวลผลและเรียนรู้จากข้อมูลที่ได้รับและนำข้อมูลนั้น ๆ มาช่วยในการตัดสินใจและแก้ปัญหาต่าง ๆ ตามเงื่อนไขที่กำหนด เทคโนโลยีนี้มีชื่อเรียกว่าปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI (Artificial Intelligence) ถึงแม้ว่าเทคโนโลยีนี้จะอยู่ในขึ้นพัฒนาแต่ก็มี AI บางตัวที่ถูกปล่อยออกมาให้ได้ใช้แล้ว เช่น ระบบสั่งการด้วยเสียง อย่าง Siri หรือ Google Assistant เป็นต้น
บทสรุปส่งท้าย : คอมพิวเตอร์ 5 ยุค กับการพัฒนาทั้งด้านความรู้และความสะดวกสบายในชีวิตของมนุษย์
คอมพิวเตอร์นั้นมีวิวัฒนาการมาเป็นระยะเวลาถึง 5 ยุคด้วยกัน รูปร่างหน้าตาและความสามารถพัฒนาสูงขึ้นไปเรื่อย ๆ จากเครื่องจักรที่กินพื้นที่มหาศาลปัจจุบันกลายเป็นเครื่องสี่เหลี่ยมบาง ๆ ขนาดไม่เท่าไหร่ แต่สิ่งที่น่าคิดต่อคือหลังจากนี้แล้ว.. คอมพิวเตอร์จะพัฒนาไปในทิศทางไหน หลังจากนี้อีกสิบปีหน้าตาของคอมพิวเตอร์จะเป็นอย่างไร? เครื่องจะเล็กลงไหม? หรือว่าจะใหญ่ขึ้น? หรือจะเปลี่ยนรูปร่างไปอย่างสิ้นเชิง? อันนี้ก็ยังคงเป็นปริศานาที่อาจต้องรอคอยคำตอบกันต่อไป..