1.เลือกตู้เย็นแบบประตูเดียว 3 และ 4 ประตู โดยให้ความใส่ใจกับความประหยัดไฟ
ไม่ว่าจะเลือกใช้ตู้เย็นแบบประตูเดียว 3 และ 4 ประตู ก็ตาม สิ่งที่สำคัญมากที่สุด และไม่ควรมองข้ามเลยก็คือ การเลือกตู้เย็นที่ประหยัดไฟฟ้า โดยมีวิธีในการเลือกง่ายๆก็คือ การเลือกตู้เย็นที่ได้รับการรับรองโดยฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 นั่นเอง เพราะตู้เย็นประเภทนี้จะใช้ไฟฟ้าเพียงประมาณ 220 หน่วยต่อปี คิดเป็นจำนวนเงินเพียงประมาณปีละ 573 บาท เท่านั้นเอง ประหยัดแบบนี้... ใครล่ะจะไม่ชอบจริงไหม!?
2.เลือกตู้เย็นแบบประตูเดียว 3 และ 4 ประตู โดยให้ความสำคัญกับข้อมูลที่สอดคล้องกับการใช้งาน
- ควรเลือกตู้เย็นที่ทำความสะอาดง่าย
- ควรเลือกตู้เย็นที่ติดต่อศูนย์บริการง่าย
- ควรเลือกตู้เย็นที่มีฉนวนกันความร้อนด้านบน เพื่อให้สามารถวางอุปกรณ์ไฟฟ้าอื่นๆที่จำเป็น เพื่อเป็นการช่วยประหยัดพื้นที่ได้อีกด้วย
3.เลือกตู้เย็นแบบประตูเดียว 3 และ 4 ประตู โดยคำนึงถึงความจุที่เหมาะกับจำนวนสมาชิกในครอบครัว
ในการเลือกว่าจะซื้อตู้เย็นแบบประตูเดียว 3 และ 4 ประตู นั้น สิ่งหนึ่งที่สำคัญมากที่สุดคือการเข้าใจว่าตู้เย็นแบบใด มีความเหมาะสมกับสมาชิกครอบครัวจำนวนเท่าใดกันบ้าง โดยมีหลักในการพิจารณาอย่างง่ายดาย ดังต่อไปนี้
- สมาชิกสองคน = ตู้เย็นขนาด 2.5 คิว ขึ้นไป
- สมาชิก 3-4 คน = ตู้เย็นขนาด 12-18 คิว ขึ้นไป
- สมาชิก 5 คนขึ้นไป = เย็นขนาด 15 คิว ขึ้นไป
4.เลือกตู้เย็นแบบประตูเดียว 3 และ 4 ประตู จากไลฟ์สไตล์ในการซื้ออาหาร
เป็นหนึ่งในสิ่งที่ควรให้ความใส่ใจเป็นอย่างมาก เพราะถ้าหากเป็นคนที่ชอบทำอาหารบ่อย ซื้อของสดบ่อยเป็นจำนวนมาก ก็ควรเลือกซื้อตู้เย็นที่มีช่องแช่เย็นขนาดใหญ่มากกว่าปกติ แต่ถ้าหากเป็นคนที่ชอบซื้อของแช่แข็งก็ควรเลือกซื้อตู้เย็นที่มีช่องแช่แข็งขนาดใหญ่ เพื่อให้ตอบสนองต่อความต้องการในการใช้ชีวิตได้อย่างเหมาะสมมากยิ่งขึ้นนั่นเอง
5.เลือกตู้เย็นแบบประตูเดียว 3 และ 4 ประตู โดยอิงจากประเภท และราคา
ในการเลือกตู้เย็นแบบประตูเดียว 3 และ 4 ประตู ประเภทและราคา เป็นสิ่งที่มีความสำคัญอย่างมากเลยทีเดียว อันดับแรกควรทำการสำรวจตัวเองก่อนว่ามีพฤติกรรมในการใช้งานตู้เย็นแบบใด จากนั้นจึงค่อยมาทำการพิจารณาเลือกตู้เย็นแบบประตูเดียว 3 และ 4 ประตู และราคาที่มีความสอดคล้องกัน ดังต่อไปนี้
ตู้เย็นขนาดเล็ก มินิ หรือมินิบาร์
เป็นตู้เย็นที่เหมาะกับคนที่อาศัยอยู่เพียงลำพังคนเดียว และไม่ค่อยแช่เย็นอะไรมากนักส่วนใหญ่จึงมักเป็นเครื่องดื่มมากกว่า นิยมนำมาใช้กันในห้องนอน หอพัก คอนโด หรือคนที่มีพื้นที่ค่อนข้างจำกัด สำหรับราคาของตู้เย็นขนาดเล็กนี้จะอยู่ที่ประมาณ 2500 – 6000 บาท
ตู้เย็นแบบประตูเดียว
ตู้เย็นแบบประตูเดียว มีขนาดของความจุภายในไม่มากนัก ช่องแช่เย็น และช่องแช่แข็งรวมกันอยู่ในส่วนเดียวกัน ทำให้อาจเกิดปัญหาในเรื่องของกลิ่นไม่พึงประสงค์เกิดขึ้นได้ค่อนข้างง่าย เหมาะกับคนที่ทำอาหารบ้าง สนนราคาของตู้เย็นประตูเดียวจะอยู่ทีประมาณ 4000 – 6000 บาท
ตู้เย็นแบบ 2 ประตู
เป็นตู้เย็นที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน เนื่องจากช่องแช่เย็น และช่องแช่แข็ง มีการแบ่งแยกออกจากกันอย่างชัดเจน ทำให้ป้องกันการเกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้เป็นอย่างดี แถมเมื่อเปิดใช้ช่องแช่เย็น ช่องแช่แข็งก็จะไม่สูญเสียความเย็นอีกด้วย โดยราคาของตู้เย็นประเภทนี้ จะอยู่ที่ประมาณ 9000 – 30000 บาท
ตู้เย็นแบบ 3 ประตู
เป็นตู้เย็นที่มีประตูอยู่ด้านซ้าย ขวา และด้านล่าง เหมาะอย่างมากในการนำมาใช้ในห้องที่มีพื้นที่ในการเปิดประตูตู้เย็นที่จำกัด อย่างไรก็ตามตู้เย็นแบบ 3 ประตู ก็ถือว่ามีราคาที่ค่อนข้างแพงเอาเรื่อง โดยจะอยู่ที่ประมาณ 40000 บาท ขึ้นไป
ตู้เย็นแบบ 4 ประตู
ตู้เย็นแบบ 4 ประตู บางครั้งถูกเรียกว่าตู้เย็นประตูซ้อน เป็นนวัตกรรมใหม่ของตู้เย็น ที่ประตูมากถึง 4 ประตู และยังมีประตูอีก 2 บาน ซ้อนเอาไว้ด้านบน ทำให้ตู้เย็นแบบ 4 ประตู สามารถเก็บกักความเย็นจากการเปิดใช้งานได้อย่างยอดเยี่ยม นอกจากนี้ยังสามารถแบ่งสัดส่วนประเภทของอาหารที่ทำการแช่เย็นเอาไว้ได้อย่างเป็นระเบียบมากขึ้นอย่างมากเลยทีเดียว
6.เลือกตู้เย็นแบบประตูเดียว 3 และ 4 ประตู โดยอิงความต้องการใช้งานเป็นหลัก
อีกสิ่งหนึ่งที่ควรให้ความใส่ใจเป็นอย่างมากคือภายในของตู้เย็นที่ทุกส่วนต้องสามารถทำการปรับเปลี่ยนวางสิ่งของที่ต้องการแช่เย็นได้อย่างดี และต้องมีการควบคุมความชื้นอย่างพอเหมาะ เพื่อช่วยให้อาหารความสดใหม่ได้อย่างยาวนานมากขึ้น
7.เลือกตู้เย็นแบบประตูเดียว 3 และ 4 ประตู โดยเลือกฟังก์ชันเสริมที่น่าสนใจ
สำหรับฟังก์ชันเสริมของตู้เย็นแบบประตูเดียว 3 และ 4 ประตู มักจะมีความแตกต่างกันออกไปตามยี่ห้อ และรุ่นของตู้เย็น เช่น ระบบการไหลเวียนความเย็นแบบคู่ ระบบประหยัดพลังงาน หรือระบบฆ่าเชื้อแบคทีเรียด้วยรังสียูวี เป็นต้น ระบบเหล่านี้ขึ้นอยู่กับว่าคุณเลือกที่จะใช้งานแบบใดเป็นพิเศษนั่นเอง
