

วิธีคำนวณ BTU แอร์ให้เหมาะสมสำหรับติดตั้งใน
ห้องนอน ห้องทำงาน


BTU คืออะไร?
BTU ย่อมาจากBritish Thermal Unit คือ หน่วยวัดปริมาณความร้อนของเครื่องปรับอากาศ ซึ่งเรามักจะพบว่าแอร์ที่ขายตามท้องตลาดนั้นจะมีให้เลือกขนาด BTU ตามที่ผู้ใช้ต้องการ ซึ่งการเลือกขนาด BTU ของแอร์ว่าควรมีกี่BTUนั้นขึ้นอยู่กับ ขนาดตารางเมตรของห้องที่ต้องการจะติดตั้ง
แอร์สำหรับติดตั้งในห้องนอนปกติควรมีกี่BTU

| ขนาดห้องนอนปกติ | แอร์ควรมีขนาดกี่BTU |
| 5-7ตรม. | 5,000BTU |
| 10-14ตรม. | 9,000BTU |
| 14-18ตรม. | 12,000BTU |
| 18-22ตรม. | 15,000BTU |
| 22-26ตรม. | 18,000BTU |
| 25-29ตรม. | 20,000BTU |
| 27-31ตรม. | 22,000BTU |
| 30-34ตรม. | 24,000BTU |
| 38-42ตรม. | 30,000BTU |
| 46-50ตรม. | 36,000BTU |
| 51-55ตรม. | 40,000BTU |
แอร์สำหรับติดตั้งในห้องนอนที่โดนแดดควรมีกี่BTU

| ขนาดห้องนอนที่โดนแดด | แอร์ควรมีขนาดกี่BTU |
| 4-8ตรม. | 5,000BTU |
| 9-13ตรม. | 9,000BTU |
| 13-17ตรม. | 12,000BTU |
| 17-21ตรม. | 15,000BTU |
| 20-24ตรม. | 18,000BTU |
| 23-27ตรม. | 20,000BTU |
| 25-29ตรม. | 22,000BTU |
| 28-32ตรม. | 24,000BTU |
| 35-39ตรม. | 30,000BTU |
| 44-47ตรม. | 36,000BTU |
| 48-52ตรม. | 40,000BTU |
แอร์สำหรับติดตั้งในห้องทำงานปกติควรมีกี่BTU

| ขนาดห้องทำงานปกติ | แอร์ควรมีขนาดกี่BTU |
| 4-8ตรม. | 5,000BTU |
| 9-13ตรม. | 9,000BTU |
| 12-16ตรม. | 12,000BTU |
| 16-20ตรม. | 15,000BTU |
| 19-23ตรม. | 18,000BTU |
| 22-26ตรม. | 20,000BTU |
| 24-28ตรม. | 22,000BTU |
| 26-30ตรม. | 24,000BTU |
| 33-37ตรม. | 30,000BTU |
| 40-44ตรม. | 36,000BTU |
| 54-49ตรม. | 40,000BTU |
แอร์สำหรับติดตั้งในห้องทำงานที่โดนแดดควรมีกี่BTU

| ขนาดห้องทำงานที่โดนแดด | แอร์ควรมีขนาดกี่BTU |
| 4-8ตรม. | 5,000BTU |
| 8-12ตรม. | 9,000BTU |
| 11-15ตรม. | 12,000BTU |
| 15-19ตรม. | 15,000BTU |
| 18-22ตรม. | 18,000BTU |
| 20-24ตรม. | 20,000BTU |
| 22-26ตรม. | 22,000BTU |
| 25-29ตรม. | 24,000BTU |
| 31-35ตรม. | 30,000BTU |
| 38-42ตรม. | 36,000BTU |
| 41-46ตรม. | 40,000BTU |
วิธีการคำนวนขนาดBTUของแอร์
นอกเหนือจากขนาดห้องต่างๆที่ยกตัวอย่างในข้างต้น คุณเองก็สามารถคำนวนขนาดแอร์ BTU ได้ด้วยตัวเองได้ด้วยวิธีง่ายๆดังต่อไปนี้
พื้นที่ห้อง(ตร.ม.) x ตัวแปรที่ทำให้เกิดความร้อน =?
ผลลัพธ์ได้เท่าไหร่ นั่นคือขนาดBTU ของแอร์ที่ควรเลือกซื้อนั่นเอง
ตัวแปรที่ทำให้เกิดความร้อนมีค่าเท่าไหร่?
ตัวแปรที่ทำให้เกิดความร้อนมีค่าดังต่อไปนี้
- 700
ตัวแปรที่ทำให้เกิดความร้อนสำหรับห้องที่ไม่ค่อยโดนแดดจะมีค่าเท่ากับ 700
- 800
ตัวแปรที่ทำให้เกิดความร้อนสำหรับห้องที่โดนแดดปานกลางจะมีค่าเท่ากับ 800
- 1,000
ตัวแปรที่ทำให้เกิดความร้อนสำหรับห้องที่โดนแดดปานกลางจะมีค่าเท่ากับ 1,000
หลังจากการเลือกเครื่องปรับอากาศได้ตามขนาดBTUที่เหมาะสมกับห้องต่างๆที่ต้องการจะติดตั้งไม่ว่าจะเป็นห้องนอน หรือห้องทำงานคุณผู้ใช้ทุกคนก็อย่าลืมดูแลบำรุงรักษาแอร์ที่ซื้อมาเพื่อการใช้งานที่ยั่งยืนอยู่เสมอ
เรามาลองดูวิธีการดูแลรักษาแอร์ด้วยตัวเองง่ายๆไม่ต้องจ้างช่างกันดีกว่า
3 วิธีดูแลรักษาแอร์ในทุกขนาดBTU
- ผู้ใช้แอร์ไม่ว่าจะกี่BTUก็ตามควรตั้งค่าอุณภูมิให้เหมาะสม โดยอุณภูมิที่เหมาะสมจะอยู่ที่ 25-26 องศาเซียลเซียส
- ชุดระบายความร้อนของแอร์ที่ติดตั้งอยู่ภายนอกไม่ควรติดตั้งในบริเวณที่โดนแดดโดยตรงหรืออยู่ในที่อับชื้นเพราะความร้อนและความชื้นส่งผลเสียและทำลายตัวเครื่องได้
- หมั่นทำความสะอาดแผ่นกรองอากาศอยู่เสมออย่าให้มีฝุ่นเกาะกันเลยเชียวจะช่วยประหยัดไฟได้ดีถ้าหากตัวแผ่นกรองสะอาดอยู่เสมอ
หลังจากการดูแลบำรุงรักษาด้วยตัวเองแล้วอาจยังไม่พอควรล้างทำความสะอาดแอร์โดยช่างผู้ชำนาญการด้วยทุก4-6 เดือน
มาถึงตรงนี้เราก็ได้เรียนรู้วิธีการเลือกขนาดแอร์ว่าควรใช้กี่BTUจึงเหมาะกับขนาดห้องเท่าไหร่และยังได้เรียนรู้ถึงการดูแลรักษาแอร์กันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จากนี้เรามาลองดูชนิดของแอร์ในลักษณะต่างๆกันดีกว่า
ชนิดของแอร์มีอะไรบ้าง
- แอร์แบบผนัง
- แอร์แบบตั้ง/แขวน
- แอร์แบบฝังฝ้า
- แอร์แบบตู้ตั้ง
สิ่งที่ควรคำนึงถึงเมื่อต้องการซื้อแอร์นอกเหนือจากขนาดBTU
- จำนวนเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆที่ตั้งอยู่ภายในห้องที่ต้องการติดตั้งแอร์
- จำนวนผู้ใช้หรืออยู่อาศัยภายในห้องที่ต้องการติดตั้งแอร์
- หลังคาหรือวัสดุก่อสร้างของห้องที่ต้องการติดตั้งแอร์
- ทิศทางที่แดดส่องห้องพัก
- ค่าEER/SEER
การจะซื้อแอร์ดีดีสักเครื่องนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลยจริงๆก่อนจะตัดสินใจซื้อควรเลือกสิ่งที่ดีและเข้ากับจุดประสงค์การใช้งานของเราให้มากที่สุดเพื่อการคุ้มค่าในการใช้จ่ายรวมถึงการใช้สอยด้วย









