อยากเป็นเจ้าของตู้เย็นสีขาวไม่ยาก ลองทำตามขั้นตอนแนะนำต่อไปนี้สิ
ตู้เย็นสีขาวสะอาดบริสุทธิ์... เป็นหนึ่งในความฝันของหลายคน เพราะตู้เย็นสีขาวช่วยเพิ่มความคูล และสบายตาให้มากขึ้นกว่าเดิมอย่างมากเลยทีเดียว อย่างไรก็ตามเนื่องจากสีขาว เป็นสีเปื้อนง่ายมาก เพียงแค่มีคราบสกปรกเล็กน้อยก็สามารถที่จะทำให้เกิดคราบสกปรกที่เห็นได้อย่างชัดเจน ดังนั้น จึงจำเป็นที่จะต้องหมั่นทำความสะอาดตู้เย็นสีขาวอย่างเหมาะสม ด้วยความสม่ำเสมอ เพื่อเปลี่ยนโฉมตู้เย็นให้มีขาว สวยงาม ใสปิ๊ง! เหมือนตอนที่ทำการซื้อมาใหม่ๆนั่นเอง
10 ขั้นตอนในการเปลี่ยนตู้เย็นสีขาวให้สวยเหมือนกับซื้อมาใหม่
ขั้นตอนที่ 1 : กำจัดของกินที่แช่ไว้เป็นเวลานาน
หลายคนอาจทำการแช่อาหารทิ้งเอาไว้ในตู้เย็นเป็นเวลานานจนลืมวันที่เริ่มต้นแช่ ดังนั้น หากต้องการทำความสะอาดตู้เย็น อันดับแรกที่ต้องทำคือการแยกประเภทของอาหารที่ยังทานได้ และหมดอายุแล้วให้เรียบร้อยเสียก่อน
ขั้นตอนที่ 2 : กำจัดอาหารหมดอายุให้หมด
จัดการเคลียร์อาหารที่ไม่ต้องการทาน และอาหารที่หมดอายุแล้วให้หมดเสียก่อนอย่างไม่ต้องเสียดาย และควรทำการซ่อนถุงดำเอาไว้สักสองชั้น เพื่อป้องกันไม่ให้อาหารที่หมดอายุส่งกลิ่น หรือมีน้ำไม่พึงประสงค์ไหลเยิ้มทะลุถุงดำออกมานั่นเอง
ขั้นตอนที่ 3 : เก็บอาหารที่ยังทานได้ให้เป็นระเบียบ
เก็บอาหารที่ยังทานได้ใส่เอาไว้ในภาชนะถนอมอาหารให้เรียบร้อย และถ้าหากอาหารประเภทใดที่จำเป็นจะต้องเก็บรักษาความเย็นเอาไว้ ขอแนะนำให้จัดเตรียมลังน้ำแข็งที่มีขนาดที่ใหญ่เพียงพอ เพื่อช่วยในการเก็บรักษาคุณภาพของอาหารเอาไว้ในขณะที่กำลังทำการล้างทำความสะอาดตู้เย็นสีขาวให้กลับมาสะอาดเหมือนใหม่อีกครั้ง
ขั้นตอนที่ 4 : ก่อนทำความสะอาดอย่าลืมถอดปลั๊กตู้เย็นสีขาวทุกครั้ง
เพื่อความปลอดภัยอย่างลืมทำการถอดปลั๊กของตู้เย็นสีขาวออกก่อนทำความสะอาดภายใน เพื่อเป็นการช่วยป้องกันไม่ให้ถูกไฟฟ้าดูด
ขั้นตอนที่ 5 : กดปุ่มละลายน้ำแข็งอย่างสม่ำเสมอ
น้ำแข็งในช่องแช่แข็ง เป็นอุปสรรคที่สำคัญอย่างมากในการทำความสะอาด ถ้าหากต้องการทำความสะอาดอย่างหมดจรดทุกซอกทุกมุมจริงๆ หลังจากที่ทำการถอดปลั๊กไฟแล้ว ให้ทำการกดปุ่มละลายน้ำแข็ง ซึ่งจะช่วยทำให้น้ำแข็งเกิดการละลายตัวเองได้อย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้นนั่นเอง เมื่อน้ำเต็มถาดรองละลายน้ำแข็งก็อย่าลืมนำไปเทน้ำออกให้หมด ก่อนนำกลับมารองไว้อีกครั้งเพื่อช่วยรับน้ำ ที่คราบสกปรกที่เกิดขึ้นจากกระบวนการทำความสะอาดอีกครั้ง
ขั้นตอนที่ 6 : เริ่มต้นทำความสะอาดภายในตู้เย็นด้วยฟองน้ำหนานุ่ม
ใช้ฟองน้ำที่หนานุ่มทำการชุบน้ำเล็ก แล้วนำไปเช็ดส่วนที่เกิดคราบสกปรก คราบอาหารที่หลงเหลืออยู่ในตู้เย็นให้หมด
ขั้นตอนที่ 7 : กำจัดเชื้อราที่ขอบประตูด้านใน
หลายครั้งที่บริเวณขอบประตูด้านในจะเกิดปัญหาเชื้อรากวนใจขึ้น แต่ไม่ต้องกังวลไป เพราะเชื้อราเหล่านี้สามารถที่จะจัดการให้หมดไปได้ไม่ยาก เพียงแค่ใช้เบรกกิ้งโซดาผสมละลายเข้ากับน้ำเปล่า แล้วนำผ้าไปชุบหมาดมาเช็ดถูบริเวณที่เกิดเชื้อราเพื่อทำการกำจัด จากนั้นใช้สำลีชุบน้ำส้มสายชูแล้วทาลงไปบริเวณที่เคยเกิดเชื้อราอีกครั้ง ก็จะช่วยลดโอกาสเกิดปัญหาเชื้อราในภายหลังได้เป็นอย่างดีเช่นกัน
ขั้นตอนที่ 8 : ทำความสะอาดชั้นวางของภายใน
ถอดชั้นวางภายในออกไปล้างทำความสะอาดด้วยน้ำยาล้างจานเจือจางเพื่อกำจัดคราบสกปรก และคราบไขมัน เมื่อสะอาดดีแล้วพึ่งชั้นวางของเอาไว้ให้แห้งในที่ที่อากาศถ่ายเทได้อย่างสะดวก
ขั้นตอนที่ 9 : พักเครื่องตู้เย็นเอาไว้ภายในแห้งสนิทก่อนใช้งาน
ก่อนทำการใช้งานตู้เย็นหลังจากที่ทำความสะอาดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ไม่ควรใช้งานในทันที แต่ให้เปิดประตูทิ้งเอาไว้สัก 4-5 ชั่วโมง เพื่อให้ภายในแห้งสนิทเสียก่อน จากนั้นค่อยทำการเสียปลั๊กใช้งาน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดกลิ่นอับที่ไม่พึงประสงค์นั่นเอง
ขั้นตอนที่ 10 : เพิ่มสารดูดกลิ่นไม่พึงประสงค์จากธรรมชาติ
หลังจากที่ทำความสะอาดตู้เย็นให้กลับมาเป็นสีขาวสะอาดอีกครั้งเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เมื่อทำการเปิดใช้งานขอแนะนำให้เตรียมถ่าน หรือเมล็ดกาแฟ ที่มีคุณสมบัติในการช่วยดูดซับกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ใส่ภาชนะเอาไปวางไว้ภายในด้วย นอกจากจะช่วยจัดการกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้เป็นอย่างดีแล้ว ยังช่วยเพิ่มความหอมให้กับภายในของตู้เย็นให้มากขึ้นอีกด้วย
