6.เลือกเฟอร์นิเจอร์ร้านกาแฟที่เหมาะสมกับความต้องการของลูกค้า
ลูกค้าที่เข้ามาดื่มกาแฟ โดยทั่วไปแล้วมักสามารถแบ่งออกได้เป็นสามประเภท คือ ลูกค้าที่สั่งกาแฟกลับบ้าน ลูกค้าที่มาคนเดียว และลูกค้าที่มาเป็นกลุ่ม ดังนั้น การจัดเฟอร์นิเจอร์ร้านกาแฟที่เหมาะสมกับลูกค้าในแต่ละกลุ่มจึงมีความสำคัญเป็นอย่างมาก เช่น ลูกค้าที่สั่งกลับบ้าน อาจต้องการเก้าอี้แบบบาร์ เพื่อนั่งรอรับเครื่องดื่มจากบาริสต้าโดยตรง ลูกค้าที่มาคนเดียว ต้องการความเป็นส่วนตัวจึงควรมีมุมสำหรับคนนั่งคนเดียวเพื่อความเป็นส่วนตัวของลูกค้า และลูกค้าที่มาเป็นกลุ่มก็ต้องการโซฟา หรือโต๊ะชุด เพื่อให้สามารถนั่งสนทนาร่วมกันได้ เป็นต้น
7.เลือกเฟอร์นิเจอร์ร้านกาแฟที่เคลื่อนย้ายได้
แม้ว่าร้านกาแฟโดยทั่วไปแล้วจะมีพื้นที่ค่อนข้างจำกัด แต่ก็ไม่เหมาะกับการใช้เฟอร์นิเจอร์แบบบิ้วท์อินนัก เพราะอาจจำเป็นที่จะต้องมีการเคลื่อนย้ายเฟอร์นิเจอร์ในร้านตามตำแหน่งต่างๆ ให้มีความเหมาะสมกับกลุ่มของลูกค้าที่เข้ามาใช้งาน ดังนั้น การเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ร้านกาแฟที่สามารถเคลื่อนย้ายได้ จึงเป็นสิ่งที่เหมาะมากที่สุด
8.เลือกเฟอร์นิเจอร์ร้านกาแฟที่ทำความสะอาดได้ง่าย
ความสะอาดเป็นสิ่งที่มีความสำคัญเป็นอย่างมากสำหรับร้านกาแฟ ดังนั้น ควรเลือกเฟอร์นิเจอร์ร้านกาแฟที่สามารถทำความสะอาดได้ง่าย และเคลื่อนย้ายเพื่อทำความสะอาดพื้นที่โดยรอบได้อย่าง่ายดาย
9.เลือกเฟอร์นิเจอร์ร้านกาแฟขนาดไม่ใหญ่มาก เพื่อเพิ่มพื้นที่ว่างให้กับร้าน
ลูกค้าส่วนใหญ่ชอบร้านกาแฟที่มีความโปร่ง โล่ง สบาย ไม่แออัดมากจนเกินไป ซึ่งเป็นสิ่งที่สามารถทำได้ด้วยการเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ที่มีขนาดไม่ใหญ่มากนั่นเอง
10.เลือกเฟอร์นิเจอร์ร้านกาแฟที่ใช้วัสดุที่ดี
เมื่อเลือกได้แล้วว่าอยากที่จะทำการซื้อเฟอร์นิเจอร์ร้านกาแฟแบบใด อย่าลืมทำการตรวจสอบประเภทของวัสดุด้วยว่ามีคุณภาพที่ดี เหมาะสมกับราคาที่ต้องจ่ายมากน้อยเพียงใด และควรเลือกวัสดุที่สามารถทนน้ำได้ นอกจากนี้ ยังควรทำการเปรียบเทียบราคาของเฟอร์นิเจอร์ร้านกาแฟในประเภทวัสดุเดียวกันหลายๆยี่ห้อ ซึ่งนอกจากจะช่วยให้เลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์ร้านกาแฟที่มีคุณภาพที่ดีมากขึ้น ยังอาจช่วยประหยัดงบในกระเป๋าได้อีกทางหนึ่ง