6.เลือกเก้าอี้ทำงานที่มีเบาะหนาและยืดหยุ่น

 

ความหนาและความยืดหยุ่นสามารถช่วยลดอาการปวดเอวให้น้อยลงได้เป็นอย่างดี และขอแนะนำว่าควรหลีกเลี่ยงเก้าอี้ทำงานที่มีเบาะนิ่มมากจนเกินไป เพราะจะทำให้กระดูกเชิงกรานผิดรูปจนทำให้เกิดปัญหาปวดหลังตามมาในภายหลัง

7.เลือกเก้าอี้ทำงานที่ไม่ก่อให้เกิดปัญหากดหลังเข่า

 

ควรเลือกเก้าอี้ทำงานที่เบาะบริเวณใต้ต้นขามีลักษณะลู่ลงไปตามแรงโนมถ่วง ไม่หนานูนขึ้นมาเพราะจะส่งผลทำให้เลือดขาดการไหลเวียน ทำให้ปวดขาและอาจเกิดอาการชาขึ้นเมื่อนั่งติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน

8.เลือกเก้าอี้ทำงานที่มีความสูงของพนักพิงที่เหมาะสม

เก้าอี้ทำงาน

 

เก้าอี้ทำงานที่มีพนักพิงสูงจะช่วยให้การนั่งทำงานเป็นระยะเวลานานมีความรู้สึกสบายมากขึ้นกว่าเดิม พอสามารถรองรับบริเวณต้นคอได้อีกด้วย แต่สำหรับคนที่คิดว่าตัวเองอาจรู้สึกอึดอัด การเลือกซื้อเก้าอี้ทำงานที่สามารถปรับความสูงของพนักพิงได้ ก็เป็นสิ่งที่มีความน่าสนใจเช่นกัน

9.เลือกเก้าอี้ทำงานที่ทำความสะอาดได้ง่าย

 

เก้าอี้ทำงานที่ดี ควรทำความสะอาดได้อย่างง่ายดาย เพียงแค่ทำการปัดฝุ่นและเช็ดด้วยน้ำเปล่าก็เพียงพอ เพื่อช่วยให้ในทุกการใช้งานรู้สึกถึงความสะอาดสบายตัวมากขึ้นกว่าเดิมนั่นเอง

10.เลือกเก้าอี้ทำงานที่สามารถปรับเอนหลังได้

 

เก้าอี้ทำงานที่สามารถปรับเอนหลังได้ช่วยทำให้รู้สึกถึงความผ่อนคลายมากขึ้น และยังช่วยให้การพักสายตาในระหว่างวันง่ายดายมากขึ้น ซึ่งจะเป็นการช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้มากขึ้นได้อย่างง่ายดายอีกด้วย

 

บทความแนะนำ
ตู้ แช่ ยี่ ห้อ ไหน ดี
ตู้เย็น
2 กระทู้ Pantip แนะนำตู้แช่น้ำดื่ม ตู้แช่แข็ง ใช้ทน ใช้นาน ประหยัดไฟ + 2 รีวิวตู้แช่แข็งน่าซื้อ ปี 2020 ราคาคุ้ม ๆ
หมดห่วงเรื่องกินไฟ กับตู้แช่แข็ง 6 รุ่นน่าซื้อ คัดมาแต่ยี่ห้อเจ๋ง ๆ รา...